เชียงใหม่มีคนเร่ร่อนอยู่ประมาณ 118 คน พมจ.เชียงใหม่ยันพร้อมดูแลให้คำปรึกษาและดูแลสุขภาพ พบส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสุราเรื้อรัง

262

พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เผยพร้อมดูแลคนเร่ร่อน-คนไร้บ้าน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้ง 3 จุดบริการ ให้คำปรึกษาและดูแลสุขภาพ ทุกวันจันทร์ พบส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสุราเรื้อรัง

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 นางจิราพร เชาวน์ประยูร ยามาโมโต้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ ถึงการดูแลคนเร่รอน-คนไร้บ้าน ซึ่งอาศัยอยู่ในที่สาธารณะพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่าขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ มีคนเร่ร่อนอยู่ประมาณ 118 คน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ให้การดูแลในทุกวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ที่จุดให้บริการ 3 จุด ได้แก่ ประตูท่าแพ ประตูช้างเผือก และสวนสาธารณะตลาดต้นลำไย ซึ่งเป็นจุดรวมกลุ่มใหญ่ของคนเร่รอน โดยได้ดูแลทั้งการให้คำปรึกษาในการดำรงชีวิตและการดูแลด้านสุขภาพ โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลต่าง ๆ ที่มักจะมีโรคที่ต้องเฝ้าระวัง อย่างในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน ก็ได้มีการแจกเสื้อกันฝน ยากันยุง และอาหารอุ่น กรณีกลุ่มคนดังกล่าวต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จะส่งตัวไปยังโรงพยาบาลนครพิงค์ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หากเป็นผู้ป่วยด้านจิตเวช ก็จะส่งตัวไปยังโรงพยาบาลส่วนปรุง ทั้งนี้ เป็นไปตามการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

อย่างไรก็ตาม กรณีได้รับการร้องเรียนว่ามีคนเร่ร่อนสร้างความเดือดร้อนในพื้นที่สาธารณะ ทั้งการซักผ้า ตากผ้า ทำอาหาร ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ลงไปตักเตือนในทันที ทั้งนี้ พบว่าคนเร่ร่อนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสุราเรื้อรัง และมักส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจเข้าไปดำเนินการตักเตือน พร้อมสร้างความตระหนักว่าจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยว หากสร้างความเดือร้อนในพื้นที่ก็จะไม่ให้อาศัยอยู่ต่อ ซึ่งหากต้องการกลับไปยังบ้านของตนเอง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็จะมีงบประมาณดำเนินการส่งกลับบ้านฟรีพร้อมดูแลค่าอากหารตลอดการเดินทาง หรือหากมีความประสงค์ต้องการอยู่ในการดูแลของรัฐ ก็มีหน่วยงานและสถานที่พร้อมให้การดูแล

หากประชาชนพบเห็นคนเร่ร่อน คนไร้ที่พึ่ง ต้องการได้รับความช่วยเหลือหรือสร้างความเดือดร้อนในพื้นที่ สามารถแจ้งไปยังศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่หมายเลขโทรศัพท์ 053-296122 หรือ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300

ข่าว-ภาพ : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่