คาดเป็นอุบัติเหตุ! พยานปากเอก “บอส อยู่วิทยา” รถชนต์เสียชีวิตกลางดึก จนท.พิสูจน์หลักฐาน เช็กร่องรอยการชนเตรียมรวบรวมหลักฐานส่งตำรวจ

522

คาดเป็นอุบัติเหตุ! พยานปากเอก “บอส อยู่วิทยา” รถชนต์เสียชีวิตกลางดึก จนท.พิสูจน์หลักฐาน เช็กร่องรอยการชนเตรียมรวบรวมหลักฐานส่งตำรวจ

วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีการเสียชีวิตของ นายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี หนึ่งในพยานปากสำคัญในคดี นายวยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทกระทิงแดง ที่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งชนกันในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 30 ก.ค.63 ที่ผ่านมา จนกลายเป็นกระแสข่าวอยู่ในขณะนี้ และต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงราชนิเวศน์ .เมืองเชียงใหม่ ได้มีการเชิญตัว นายสมชาย ยาวิโน อายุ 50 ปี คู่กรณีอุบัติเหตุดังกล่าวมาสอบสวน ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า ถูกรถจักรยานยนต์ผู้เสียชีวิตพุ่งชนท้าย จนทำให้รถของตนขับพุ่งไปชนเกาะกลางถนนได้รับบาดเจ็บ และยืนยันว่าไม่เคยรู้จัดกับผู้เสียชีวิตมาก่อนแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ทราบด้วยว่าผู้เสียชีวิตเป็นบุคคลคนเดียวกันกับที่เป็นพยานในคดีของ นายวยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทกระทิงแดง แม้แต่น้อย แต่ต่อมาก็มีประเด็นที่ทางโลกโซเชียลตั้งแง่สงสัยว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้มีเงื่อนงำหรือไม่ ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ช่วงสายของวันนี้ (31 ก.ค.63) ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภาค 5 นำโดย พล...ดิเรก นานนท์นิวาส ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงราชนิเวศน์ ได้ร่วมกันทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกรณีที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ด้วยการนำรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตและรถจักรยานยนต์คู่กรณี มาทำการตรวจสอบร่องรอยการชนอย่างละเอียด เพื่อนำข้อมูลไปประกอบคำให้การ และคลิปวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ที่มีการเผยแพร่ออกไป โดยทราบว่า รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ทะเบียน ครข 221 เชียงใหม่ มีนายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี พยานปากสำคัญในคดี บอส อยู่วิทยา เป็นผู้ขับขี่ และ รถจักรยานยนต์ ทะเบียน 7 ค 2340 เชียงใหม่ ของนายสมชาย ยาวิโน อายุ 50 ปี

พล...ดิเรก กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก พล...วิเชียร ตันตระวิระยะ ผบช.สพฐ.ตร. ให้มาตรวจหาร่องรอยการเฉี่ยวชนเพื่อประกอบสำนวนคดี โดยหลักฐานวัตถุพยานทั้งหมดจะต้องนำหลักฐานไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ ก่อน วันนี้ยังบอกอะไรไม่ได้และยังไม่ขอลงความเห็นอะไร แต่คาดว่าหลังตรวจสอบเสร็จแล้วจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ส่วนจะใช้เวลาในการตรวจหลักฐานนานเท่าไหร่ ศพฐ.5 จะทำให้เร็วที่สุด

ส่วนความคืบหน้าในการสอบสวน ...รณชัย รอดลอย ผก.สภ.ภูพิงราชนิเวศน์ บอกสั้น ๆ ว่า ยังไม่มีอะไร ส่วนที่เดินทางไปบ้านเกิดของนายจารุชาติที่จังหวัดเชียงราย ทางครอบครัวยังคงยืนยันไม่ทราบว่านายจารุชาติไปเป็นพยานในคดีสำคัญ ส่วนที่ทำงานของผู้ตาย กำลังตรวจสอบ ส่วนผลการชันสูตรศพกำลังรออยู่ ตอนนี้ยังไม่ได้ผลออกมา

รายงานแจ้งว่านายจารุชาติ มีชื่อเป็นลูกจ้างทำงานอยู่ในสำนักงานทนายความแห่งหนึ่งในตำบลแม่หียะ .เมืองเชียงใหม่ แต่ไม่มีการยืนยันข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่วันเดียวกันนี้ตำรวจได้เชิญตัว นายสมชาย คู่กรณีมาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมกับส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยนายสมชายบอกกับผู้สื่อข่าวว่ายังระบมกับบาดแผลจากอุบัติเหตุและยืนยันว่าตนเองถูกคู่กรณีขี่รถชนท้าย ไม่ได้เป็นคนขี่ชนอย่างที่หลายคนสงสัย
ขณะที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่นายจารุชาติ ขี่มาก่อนประสบอุบัติเหตุ เพื่อตอบข้อสงสัยที่ว่าก่อนจะเกิดการเฉี่ยวชน มีรถคันอื่นขับขี่ติดตามหรือไล่มาจนทำให้ต้องขี่จักรยานยนต์หลบหนีหรือไม่

นอกจากนี้ในเวลาต่อมา ทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยัง นายนิรันดร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์เก๋งขณะยูเทิร์นใกล้กับจุดเกิดเหตุ ก่อนที่รถจักรยานยนต์ทั้งสองคันจะเกิดชนกัน ได้เล่าว่า ขณะนั้นได้ขับรถรับผู้โดยสารมาจากโรงแรมแห่งหนึ่งในย่านดังกล่าว และขณะนั้นได้กำลังขับรถเพื่อยูเทิร์น ตามที่ปรากฏในคลิป ระหว่างนั้นตนและผู้โดยสารก็ได้ยินเสียงรถครืดดัง ซึ่งผู้โดยสารยังถามกับตนว่าขับรถชนอะไรหรือเปล่า ซึ่งตนก็บอกว่าไม่ได้ชน และจากนั้นเมื่อยูเทิร์นเสร็จ จะมุ่งหน้าไปทางแยกเมญ่า ก็เห็นรถจักรยานยนต์คันหนึ่งพุ่งมาชนเกาะกลางด้วยความแรง ร่างของคนขับก็ตกลงไปในพงหญ้าบริเวณเกาะกลาง และเมื่อขับมาอีกนิดก็พบผู้บาดเจ็บอีกรายนอนสลบอยู่ใกล้กับรถจักรยานยนต์ และจากการที่ตนเห็นคลิปยังคิดว่าคนที่รถพุ่งมาด้วยความเร็วสูงน่าจะเป็นคนชนอีกคนที่นอนสลบอยู่ที่รถ เพราะตนเห็นว่าคนดังกล่าวได้พุ่งชนเกาะกลางอย่างเร็ว แล้วก็ตกลงพงหญ้าหายไปเลย ส่วนอีกคนที่นอนสลบในตอนนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะตอนนั้นก็รีบไปส่งผู้โดยสาร จึงไม่ได้จอดลงช่วย แต่ก็เห็นมีคนจอดรถอยู่อีกฟากถนน 2-3 คน ก็ควักโทรศัพท์มาและคิดว่าคงโทรเรียกเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ ตนจึงขับรถต่อไป และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตนก็คิดว่าเป็นอุบัติเหตุ เนื่องจากตอนนั้นเป็นช่วงดึก ฝั่งถนนที่ตนขับมาก่อนจะยูเทิร์นก็มีถนนโล่งมาก และก่อนเกิดเหตุที่ตนขับมาตามเส้นทางดังกล่าวก็ไม่พบเห็นรถจักรยานยนต์ทั้งคันขับตามกันมาแต่อย่างใด เนื่องจากตอนนั้นถนนก็โล่งมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-(มีคลิป Video) พยานปากเอกคดี “บอส อยู่วิทยา” เสียชีวิตกะทันหัน หลังประสบอุบัติเหตุที่เชียงใหม่
-(มีคลิป Video) ตำรวจเรียกสอบคู่กรณี พยานปากเอก “บอส อยู่วิทยา” เจ้าตัวเผยไม่เคยรู้จักกับผู้ตาย ยันเป็นแค่อุบัติเหตุเพราะถูกรถพุ่งชนท้ายอย่างจัง