กรมสรรพากร ชี้แจงกรณีเตรียมเก็บภาษีเดินทางไปต่างประเทศ 1,000 บาทต่อคน เป็นการสำรวจความคิดเห็นตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น

484

กรมสรรพากร ชี้แจงกรณีเตรียมเก็บภาษีเดินทางไปต่างประเทศ 1,000 บาทต่อคน เป็นการสำรวจความคิดเห็นตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น

วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 กรรมสรรพากร ออกแถลงเรื่อง สรรพากรยืนยันยังไม่มีการจัดเก็บภาษีการเดินทาง เป็นการสํารวจความคิดเห็นตามที่กฎหมายกําหนดเท่านั้น ระบุว่าตามที่ได้มีการเผยแพร่ข่าว กรณีกรมสรรพากรเตรียมจะเก็บภาษีเดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยเก็บครั้งละ 1,000 บาทต่อคน สําหรับการเดินทางโดยเครื่องบินโดยสารไปต่างประเทศ และคนละ 500 บาท เมื่อเดินทางด้วยรถยนต์หรือเรือ อันเนื่องมาจากการที่กรมสรรพากรเปิดรับฟังความ คิดเห็นต่อพระราชกําหนดภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2526 เพื่อการประเมินผลสัมฤทธิ์ของ กฎหมายตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th ระหว่างวันที่ 3-17 พฤษภาคม พ.ศ.2566 นั้น

นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า “กรมสรรพากรเปิดรับฟังความคิดเห็นเพื่อประกอบการประเมินผลสัมฤทธิ์พระราชกําหนดภาษีการเดินทางออก นอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2526 เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ในเรื่องเกี่ยวกับการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย อันเป็นการตรวจสอบความเหมาะสมของเนื้อหาของ กฎหมายดังกล่าวในด้านต่างๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ.2564 ที่ได้รับทราบและเห็นชอบการดําเนินการเพื่อรองรับและขับเคลื่อนการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทําร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 ตามที่สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ไม่ได้เป็นการเตรียมการที่จะจัดเก็บภาษีการเดินทางออกนอก ราชอาณาจักรแต่อย่างใด ถึงแม้กฎหมายดังกล่าวจะไม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2534 (อ้างอิง กฎกระทรวงเพื่อยกเว้นภาษีการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร) พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทํา ร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ.2562 กําหนดให้กรมสรรพากรยังคงมีหน้าที่ ที่ต้องดําเนินการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายโดยการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องในระบบกลางตามมาตรา 35 ของพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว”

โฆษกกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ภายในปี พ.ศ.2517 กรมสรรพากรต้องดําเนินการ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2562 และพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทํา ร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 โดยการเปิดรับฟังความคิดเห็นเพื่อ ประกอบการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายอีก 2 ฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียมและ พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก”

blank