ตร.ภาค 5 จับครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี ยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท-ยาปลุกเซ็กส์ ขายสนั่นออนไลน์ พบกลุ่มเป้าหมายเยาวชนและวัยรุ่นภาคเหนือ

720

ตำรวจภาค 5 จับครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี ยาออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และ ยาออกปลุกเซ็กส์ ซื้อขายกันในโซเชี่ยล พบกลุ่มเป้าหมาย เยาวชนและวัยรุ่นภาคเหนือ ของกลางมูลค่า 4 ล้าน และเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารกว่า 10 ล้านบาท

ช่วงบ่ายวันนี้ (31 มี.ค. 66) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 นำโดย พล...ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช..5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สำนักงาน ...ภาค 5 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยเกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาคดีจำหน่ายยาอันตรายและวัตถุออกฤทธิ์โดยผิดกฎหมาย พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางเป็น วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และ ยาออกฤทธิ์กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ที่มีการลักลอบจำหน่ายโดยผิดกฎหมายผ่านสื่อโซเชียล จำนวนมาก มูลค่ารวมกว่า 3-4 ล้านบาท และพบเงินหมุนเวียนในบัญชี ประมาณ 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว 4 คน คือ นายโจ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ชาว .อรัญญิก .เมืองพิษณุโลก .พิษณุโลก , นายโต้ง (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ชาว .ท่าตอน .แม่อาย .เชียงใหม่ , ..แก้ม (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี และ นายจักร (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี โดยทั้งสองเป็นชาว .เกาะคา .ลำปาง

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ทาง พล...ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช..5 เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 ได้ทราบเบาะแสว่า มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมาก มักนิยมสั่งซื้อยา และวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ผ่านช่องทางโซเชียล โดยจะมีกลุ่มไลน์ติดต่อซื้อขายสินค้า จากนั้นจะมีการโอนเงินเข้าไปในบัญชีธนาคารของผู้จำหน่าย ต่อมาจากการตรวจสอบช่องทางการเงินและพบเบาะแสผู้ต้องหาคือ นายโจ และ นายโต้ง ที่ทราบว่าอยู่ในพื้นที่ .เชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามสืบสวนที่พักจนกระทั่ง ช่วงบ่ายของวันที่ 29 มี.ค.66 ทางเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมได้ภายในห้องพักย่าน ถนนเวียงบัว .ช้างเผือก .เมืองเชียงใหม่

blank

ขณะเดียวกันจากการ ตรวจค้นภายในห้องพัก พบของกลางเป็นยาและวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประกอบด้วย ยาทรามาดอล (Tramadol) ยี่ห้อ เพนดอล ชนิดเม็ด ขนาด 50 มิลลิกรัม จำนวน 32 แผง รวม 320 เม็ด , ยาเบ็นเซ็กซอล (Benhexol) ไม่มียี่ห้อ ชนิดเม็ด ขนาด 5 มิลลิกรัม บรรจุขวด จำนวน 454 เม็ด , ยาเซ็ตทิริซีน (Cetirzine) ยี่ห้อฟาเทค ชนิดน้ำ ขนาด 100 มิลลิลิตร/ขวด จำนวน 11 ขวด และ ยาอัลปราโชแลม (Alprazolam) ชนิดเม็ด ขนาด 0.5 มก. จำนวน 2 เม็ด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน และดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันซึ่งเป็นยาอันตราย โดยไม่ได้รับอนุญาต, จำหน่ายและมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ ในประเภทที่ 2 (อัลปราโซแลม) โดยไม่ได้รับอนุญาต” อันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติ ยา พ.ศ.2510 มาตรา 12 และ มาตรา 101 และพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยา พ.ศ. 2504 และ ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 มาตรา 94 และมาตรา 149 วรรคสอง (1)”

blank

จากนั้นต่อมา เมื่อวันที่ 30 มี.ค.66 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลการจับกุมต่อเนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองราย ที่หลังจากสอบสวนได้ให้การสารภาพว่า ได้สั่งซื้อวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และโอนเงินให้กับผู้จำหน่ายทางบัญชีธนาคารในพื้นที่ .เกาะคา .ลำปาง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมข้อมูลและหลักฐานจนทราบว่า ผู้ที่ลักลอบจำหน่ายนั้นคือ ..แก้ม (นามสมมุติ) และ นายจักร (นามสมมุติ) ที่อยู่ในพื้นที่ .ท่าผา .เกาะคา .ลำปาง

นอกจากนี้จากการตรวจค้นในที่พักทางเจ้าหน้าที่ยังพบของกลางจำนวนมาก ซึ่งมีทั้ง ยาแผนปัจจุบัน ที่ไม่มีใบอนุญาตในการจำหน่าย , วัตถุออกฤทธิ์ต่อประสาท ประเภท 2  และประเภท 4 , ยาเสพติด ประเภท 2 , วัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นยาเสพติด รวมทั้งสิ้นชนิดเม็ด จำนวน 191,032 เม็ด ชนิดขวด จำนวน 78 ขวด และชนิดซอง จำนวน 500 ซอง คิดเป็นมูลค่าของกลางทั้งสิ้นประมาณ 3 ล้านบาท  และพบเงินหมุนเวียนในบัญชีอีกประมาณ 10 ล้านบาท “พร้อมทั้งดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในข้อหา ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อการค้า, ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 และประเภท 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต” อันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 มาตรา 12, มาตรา 101, พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 และ ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 มาตรา 91, มาตรา 92, มาตรา 94, มาตรา 146, มาตรา 147, มาตรา 149 วรรคหนึ่ง (3), มาตรา 149 วรรคสอง(1) และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83”

blank

ผบช..5 กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ ถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับคดียาอันตรายและวัตถุออกฤทธิ์ทางประสาท ในรอบ 10 ปี โดยพบว่าของกลางที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้มีการติดต่อซื้อขายกันในโซเชียล ซึ่งเป้าหมายหลักจะเน้นจำหน่ายให้กับเยาวชนและกลุ่มวัยรุ่น รวมไปถึงกลุ่มเด็กและนักศึกษา ในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการสืบสวนขยายผลถึงที่มาที่ไปและช่องทางนำเข้ามาของยาทั้งหมด เนื่องจากในของกลางยาแต่ละกล่องมีซีเรียลนัมเบอร์ระบุไว้ที่มีการระบุถึงแหล่งที่มาของยาว่ามีการผลิตในประเทศไทย หรือมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ รวมทั้งหากมีการผลิตในประเทศนั้นผลิตจากโรงงานไหนอย่างไร รวมไปถึงการจำหน่ายยา เพื่อติดตามขยายผลถึงบุคคลที่ร่วมกระทำผิดต่อไป

อย่างไรก็ตามจากกรณีการจับกุมในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ผู้ปกครอง ในการช่วยสอดส่อง ดูแลพฤติกรรมของบุตรหลาน เนื่องด้วยเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีวันหยุดยาว มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยเฉพาะทางสื่อโซเชียล ซึ่งมีโอกาสที่เยาวชนจะจับกลุ่มรวมตัวกัน ซื้อหรือเสพยาเสพติด สิ่งของผิดกฎหมายในห้วงนี้ รวมถึงมีการเข้ามาของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศเป็นที่ล่อตาแก่มิจฉาชีพเข้ามาก่ออาชญากรรมได้