(มีคลิป Video) ผู้ใหญ่บ้านกังวลความปลอดภัย หลังมีคลิปถูกนายทุนท่าทรายเข้ามาต่อว่าและทำร้าย เผยคู่กรณีลอบขุดทรายเป็นอดีตนายกสองสมัย ยันเดินหน้าเอาผิด ส่วนคู่กรณียืนยันขุดได้ไม่ผิดกฎหมาย ยอมรับอารมณ์ร้อน
วันที่ 15 ส.ค.65 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีหลังเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทริน์ part 3 เผยคลิปเหตุการณ์ที่ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านสบแฝก ต.แม่แฝกใหม่ ถูกนายทุนท่าทรายเข้ามาต่อว่าและทำร้ายร่างกาย ในระหว่างที่ผู้ใหญ่บ้านเข้าไปตรวจสอบการขุดทรายในที่ดินริมแม่น้ำปิงในหมู่บ้าน เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าได้รับความเดือดร้อนและขุดโดยไม่รับอนุญาต โดยนายทุนคนดังกล่าวเป็นที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเจดีย์แม่ครัว ต.แม่แฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ทำให้ผู้ใหญ่บ้านเกรงจะเป็นการใช้อิทธิพลเข้ามาลักลอบขุดทรายไปขาย
ล่าสุดวันนี้ ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุในหมู่บ้านสบแฝก พบว่าจุดที่ขุดทรายมีการนำดินมาถมทับหลุมที่ขุดไปก่อนหน้า แต่ดินยังไม่แน่นและมีบางจุดที่ยุบตัวลง
นายอดุลย์ ตานัน ผู้ใหญ่บ้านสบแฝก เล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.วันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีชาวบ้านที่อยู่ข้างที่เกิดเหตุร้องเรียนมาว่ามีรถแบคโฮเข้ามาขุดทรายในที่ดินข้าง ๆ บ้านที่อยู่ติดกับแม่น้ำปิง มีรถบรรทุกขนทรายขับเข้าออกทั้งวัน เกรงว่าดินจะทรุดและบ้านของเธอจะได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านอีกสองรายร้องเรียนว่ามีเศษหินทรายตกบนถนนในหมู่บ้านทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน
หลังรับแจ้งจึงโทรศัพท์ไปแจ้งนายสมเกียรติ พรมเสน นายกเทศมนตรีตำบลเจดีย์แม่ครัว ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยตรวจสอบ แต่นายกเทศมนตรีบอกว่าไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ ผู้ใหญ่บ้านจึงเดินทางไปจุดขุดทรายด้วยเองและได้บอกให้คนงานที่กำลังขุดดินหยุดดำเนินการ เมื่อสอบถามก็ทราบว่าเป็นการขุดโดยที่ไม่ได้ขออนุญาต
จากนั้นไม่นาน นายจำเนียร ขันไข ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลเจดีย์แม่ครัว ซึ่งเป็นผู้ที่ว่าจ้างคนงาน ได้เดินทางเข้ามาและเข้ามาต่อว่าด้วยความไม่พอใจ ที่เขาบอกคนงานไม่ให้ขุดทราย โดยนายจำเนียนอารมณ์ร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาจึงแอบอัดคลิปวิดีโอไว้ โดยระหว่างนั้นมีการพูดข่มขู่ว่าเป็นเพียงผู้ใหญ่บ้านอย่ามาเดือนร้อนเกินหน้าเกินตา อย่างบ้าจี้ไปกับชาวบ้าน และ อ้างว่าที่ขุดทรายไม่ผิดกฎหมายเพราะเป็นที่ของเอกชนและเจ้าของอนุญาตแล้ว ก่อนที่จะพุ่งเข้าทำร้ายบีบคอและต่อยผู้ใหญ่บ้านอย่างชุลมุนตามคลิปวิดีโอ
ผู้ใหญ่บ้าน บอกอีกว่า ในหมู่บ้านเป็นพื้นที่ติดกับแม่น้ำปิง หลายสอบปีที่ผ่านมามีการเปิดท่าทรายขุดทรายไปขาย แต่ภายหลังมีท่าทรายเปิดมากขึ้นและยังมีรถขนทรายจากนอกพื้นที่เข้าออกตลอดทั้งวัน ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนจากการขนทราย ทั้งยังทำให้ตลิ่งทรุดตัวส่งผลกระทบกับทางน้ำ กระทั่งเมื่อ 3 ปี ที่ผ่านมา หมู่บ้านมีการทำการประชาคม มีมติห้ามเปิดหน้าดินใหม่เพื่อขุดดินและทรายในเชิงพาณิชย์ ทำให้ปัจจุบันในหมู่บ้านมีท่าทรายจำนวน 4 แห่ง ที่ยังเปิดกิจการ แต่รับเฉพาะร่อนทรายเท่านั้น ไม่มีการขุดเปิดหน้าดินใหม่
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นเป็นการขุดในลักษณะขุดไปขาย เป็นการดำเนินการในเชิงพาณิชย์ แม้เจ้าของที่ดินจะอนุญาต แต่ก็เป็นการฝ่าฝืนมติหมู่บ้าน ประกอบกับการขุดทรายไม่ได้ขออนุญาตจากเทศบาลตำบลเจดีย์แม่ครัว เมื่อมีชาวบ้านร้องเรียนจึงต้องเข้ามาตรวจสอบ
ผู้ใหญ่บ้าน ยอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะคู่กรณีเป็นถึงอดีตนายกเทศมนตรีสองสมัยและล่าสุดยังเป็นที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลเจดีย์แม่ครัว แต่ยืนยันจะดำเนินการไปตามข้อเท็จจริง เนื่องจากตนเองเป็นผู้ใหญ่บ้าน เป็นเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองที่ต้องดูแลชาวบ้าน หากชาวบ้านพึ่งไม่ได้ก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นจะทำหนังสือรายงานถึงนายอำเภอสันทรายและจะดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย
ขณะที่นางสมพร ( ขอสงวนนามสกุล ) บอกว่า ช่วงที่รถแบคโฮเข้ามาขุดทรายในที่ดินข้างบ้าน ไม่มีใครมาบอกล่วงหน้า คนงานบอกว่าจะขุดให้ขอบบ่ออยู่ห้างจากเขตรั้ว 3 เมตร แต่ปรากฏว่ามีการขุดห่างจากแนวเขตแค่ไม่ถึงหนึ่งเมตร ทำให้เกรงว่าพื้นที่บ้านของเธอจะได้รับผลกระทบดินทรุด เพราะมีการขุดทรายออกเป็นวงกว้าง ประกอบกับบริเวณนี้เป็นจุดใกล้กับแม่น้ำปิงเสี่ยงที่ดินจะทรุดได้ง่าย โดยหลังจากร้องเรียนและมีการกระทบกระทั่งกัน ก็ยังมีการขุดต่อไป ก่อนที่จะมีการนำดินมาถมแต่ก็พบว่ามีหลายจุดยุบตัว ไม่เหมือนเดิม
ด้าน นายจำเนียร ขันไข ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลเจดีย์แม่ครัว ชี้แจง เขาทำธุรกิจท่าทรายและรับซื้อทรายในจุดดังกล่าว โดยการขุดทรายได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดินแล้ว สามารถเข้าไปขุดทรายได้ ไม่ผิดกฎหมายและไม่ต้องขออนุญาตท้องที่เพราะขุดลึกไม่ถึง 3 เมตร และ เอาทรายจำนวน 100 ลำรถบรรทุกเท่านั้น ไม่ถึงเกณฑ์ต้องขออนุญาต ส่วนที่อ้างว่าหมู่บ้านมีประชาคมห้ามขุด เรื่องนี้ไม่ใช่ข้อกฎหมายและไม่มีใครเดือดร้อน
ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกาย ยอมรับว่าตอนนั้นโมโหที่ผู้ใหญ่บ้านพูดไม่รู้เรื่อง แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกาย แค่ผลักอกไปประมาณ 2 ครั้งเท่านั้น หลังจากนี้จะไปดูว่าผู้ใหญ่บ้านแจ้งความว่าเขาทำร้ายร่างกายหรือ ไม่หากมีการแจ้งแบบนี้ เขาจะไปแจ้งความกลับข้อหาแจ้งความเท็จ
