หนุ่มรถบรรทุกเข้ามอบตัวกับ ตร. กรณีขับรถเฉี่ยวชน น้องเฟิร์ส นศ.มหาวิทยาลัยดัง เจ้าตัวรับสารภาพ เผยไม่ได้หลบหนี ตอนเกิดเหตุคิดว่ารถตกหลุม พอทราบข่าวรีบเข้ามอบตัวทันที
วันที่ 26 ส.ค.64 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีอุบัติเหตุรถบรรทุกเฉี่ยวชน นางสาวเปี่ยมรักษ์ หรือน้องเฟิร์ส อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยดังในจังหวัดเชียงใหม่ จนเป็นเหตุให้เจ้าตัวเสียชีวิตทันทีในช่วงค่ำคืนของวันที่ 21 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณถนนสายคันคลองชลประทาน อ.เมืองเชียงใหม่ ส่วนคู่กรณีตรวจสอบพบว่าได้ขับรถหลบหนีไปหลังเกิดเหตุ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามทำการสืบสวนติดตามเส้นทางที่รถบรรทุกคันดังกล่าว ขณะที่ต่อมา หลังเกิดเหตุทางญาติและเพื่อนๆ ของ น้องเฟิร์ส ได้เดินทางมารับศพเพื่อนำกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนายังภูมิลำเนาในพื้นที่ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ซึ่งได้มีการทำพิธีพิธีฌาปนกิจไปเมื่อวานนี้ (25 ส.ค.64) ด้วยความโศกเศร้า โดยทางพ่อและแม่ของน้องเฟิร์สก็ยังคงทำใขไม่ได้กับเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
ขณะที่ในส่วนของความคืบหน้าคดีที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทางผู้สื่อข่วได้ติดต่อสอบถามไปยัง ร.ต.ท.กิตติชัย กันทะสัก รอง สว.(สอบสวน) สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เจ้าของคดี ทราบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เจอตัวคนขับรถบรรทุกคันดังกล่าวแล้ว ซึ่งเจ้าตัวได้เดินทางเข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในช่วงค่ำคืนของวันที่ 22 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ทราบข่าว โดยเบื้องต้นทราบชื่อเล่นคนขับรถบรรทุกคือ นายต้น (ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอสงวนชื่อจริง) อายุ 35 ปี เป็นชาว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยในวันที่เจ้าตัวมาเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้การรับสารภาพว่ารถในที่เกิดเหตุเป็นคันเดียวกันกับที่ตัวเองขับ และไม่มีเจตนาจะหลบหนี ซึ่งในตอนเกิดเหตุตนคิดว่ารถนั้นขับตกหลุม และได้จอดรถลงมาดูแล้วขึ้นรถขับต่อไปตามเส้นทาง จนกระทั่งต่อมาเห็นข่าวที่ปรากฏในสื่อต่างๆ และในโลกโซเชี่ยล จึงได้เดินทางเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งช่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบปากคำและตรวจสอบพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับทางคนขับรถบรรทุกคันดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของทางคนขับรถบรรุกนั้น ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และชนแล้วหลบหนี” ซึ่งเจ้าตัวให้การรับสารภาพ พร้อมทั้งดำเนินการตรวจเลือดและปัสสาวะ ไม่พบ สารเสพติด ส่วนรถบรรทุกคันดังกล่าวได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้มาตรวจพิสูจน์สภาพเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นได้ดำเนินการส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป