กรรมการผู้จัดการ รถพยาบาลเอกชน ออกแจงสื่อ ขอความเป็นธรรม กรณีนำผู้ติดเชื้อโควิด-19 จาก กทม.มาเชียงใหม่ ยันไม่ได้นำคนไข้ไปทิ้งไว้หน้า รพ. หลังข่าวออกไปกระทบชื่อเสียงบริษัท พร้อมแสดงหลักฐานชัดเจน

4266

ผู้จัดการ รถพยาบาลเอกชน ออกแจงสื่อ ขอความเป็นธรรม กรณีนำผู้ติดเชื้อโควิด-19 จาก กทม.มาเชียงใหม่ ยันไม่ได้นำคนไข้ไปทิ้งไว้หน้า รพ. หลังข่าวออกไปกระทบชื่อเสียงบริษัท พร้อมแสดงหลักฐานชัดเจน

วันที่ 27 ก.ค.64 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีบนโลกออนไลน์ และสื่อออนไลน์ท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการโพสต์ถามและแชร์ข่าวตามรายงาน ระบุว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา มีรถพยาบาลของบริษัทรถพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ นำคนไข้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากพื้นที่กรุงเทพมหานครมาทิ้งไว้ที่หน้าโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ โดยไม่มีการแจ้ง Call center หรือโรงพยาบาลมาก่อนและปล่อยให้คนไข้เดินเข้าไปในโรงพยาบาลเอง ทำให้พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลดังกล่าวจำนวนหนึ่งต้องกักตัวเพื่อสังเกตอาการ และต่อมาได้มีการแชร์ข้อมูลดังกล่าวออกไป อีกทั้งยังมีการระบุข้อมูลว่าทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จะทำการดำเนินคดี ทำให้ทางบริษัทเกิดความเสียหาย และถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก

blank

ขณะที่ล่าสุดเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ทางด้านผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังบริษัทที่ปรากฏตามข่าว และได้เข้าสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยทาง นายณัฐวุฒิ รัศมีธรรมจักร กรรมการผู้จัดการ หจก.สยามทรานร์เฟอร์ เซอร์วิส ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลรถพยาบาลเอกชนคันที่ปรากฏในข่าว ได้นำหลักฐานขอชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมคนขับรถพยาบาล ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น กับผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรมหลังจากที่มีข่าวออกไป ในโลกออนไลน์ได้มีการแสดงความคิดเห็นและแชร์ข่าวไปในเชิงลบ ทำให้ หจก.สยามทรานร์เฟอร์ เซอร์วิส ได้รับความเสียหาย

blank

นายณัฐวุฒิ รัศมีธรรมจักร บอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค. 64 เวลาประมาณ 05.30 น. – 06.30 น. โดยรถพยาบาลได้ไปรับคนไข้โควิด-19 จริง จำนวน 2 ราย แต่ไปรับมาจากจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นการไปรับคนไข้กลางทางเนื่องจากว่า ได้รับการประสานมาจากญาติของคนไข้ว่า ทางรถพยาบาลที่ออกมาจากต้นทางไม่สามารถเดินทางมาส่งถึงจังหวัดเชียงใหม่ได้ เนื่องจากว่ามีความอ่อนล้า จากการปฏิบัติงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครมาอย่างหนัก ทางบริษัทจึงรับช่วงต่อโดยนัดรับคนไข้ที่จังหวัดกำแพงเพชร ในช่วงกลางดึกของคืนวันเสาร์ ทางบริษัทได้สอบถามทางญาติแล้วว่ามีเอกสารและประสานงานกับทางจังหวัดเชียงใหม่ไว้แล้วหรือไม่ ทางญาติยืนยันว่าได้ประสานงานแล้วมีเอกสารติดตัวคนไข้มาด้วย ทางบริษัทเองจึงตกลงไปรับ เพราะคิดว่าถ้าหากไม่ได้ประสานงานหรือทำเรื่องแจ้งตามระเบียบแล้ว ไม่น่าจะสามารถออกจากกรุงเทพมหานครมาได้

blank

การไปรับตัวไม่ได้ไปรับในปั๊มน้ำมัน แต่ไปนัดรับคนไข้ในจุดที่ไม่มีผู้คนโดยให้รถพยาบาลทั้ง 2 คันจอดเทียบกัน แล้วให้คนไข้เปลี่ยนรถโดยทันที ทางคนขับรถได้มีการถามย้ำกับคนไข้และโทรกลับไปถามญาติของคนไข้ว่า มีการประสานงานและยืนยันตามระเบียบแล้วหรือไม่ ทางญาติยืนยันว่าดำเนินการแล้ว จึงได้ขับรถมาที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนถึงจังหวัดเชียงใหม่ทางเจ้าหน้าที่ขับรถได้มีการโทรศัพท์หาศูนย์ประสานงานของจังหวัดเชียงใหม่แล้วหลายครั้งแต่ไม่มีคนรับสาย อาจเพราะช่วงเวลาเป็นช่วงเช้ามืด หรืออาจมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ทางรถพยาบาลจึงนำคนไข้ ไปส่งที่โรงพยาบาลสนามตามที่มีการแจ้ง

blank

ขณะเดียวกันเมื่อไปถึงโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ลงไปประสานงานกับทางโรงพยาบาลสนาม โดยในคนไข้รออยู่ในรถ ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสนามแจ้งว่าไม่ได้รับการติดต่อหรือมีข้อมูลของคนไข้ทั้ง 2 คน และผลตรวจไม่ใช่ผลตรวจแบบ PCR จึงให้ไปตรวจหาเชื้อใหม่ที่โรงพยาบาลที่รับตรวจ ทางเจ้าหน้าที่ขับรถได้โทรศัพท์กลับไปหาญาติของคนไข้ ญาติของคนไข้ได้ตอบกลับมาว่าให้ไปที่โรงพยาบาลเอกชนได้เลย เพราะญาติได้ติดต่อโรงพยาบาลเอาไว้แล้ว รถพยาบาลจึงนำคนไข้ไปตรวจ แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลในเวลาประมาณ 05.30 น. ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่ได้รับการประสานงานเข้ามา ทางรถพยาบาลจึงจอดรอการประสานงานหน้าโรงพยาบาลโดยที่คนไข้ทั้ง 2 คนยังอยู่บนรถ ต่อมาในเวลาประมาณ 6.30 น. ทางเจ้าหน้าที่พยาบาลแจ้งว่าให้คนไข้ลงมาเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาลในโซนที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้ คนไข้ทั้ง 2 คนจึงไปรับการตรวจ แล้วรถพยาบาลได้เคลื่อนตัวออกจากโรงพยาบาล เพราะถือว่าจบภารกิจแล้ว

blank

ต่อมาภายหลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจังหวัดเชียงใหม่โทรศัพท์มาสอบถามข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้น ตนเองจึงเรียนไปตามข้อเท็จจริง ว่าไม่ได้มีเจตนาลักลอบเอาคนไข้เข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ เพียงแต่เรื่องที่เกิดขึ้น มาจากการประสานงานที่ผิดพลาด เพราะว่าทางรถพยาบาลไม่ได้ดำเนินการในส่วนของการแจ้งย้ายคนไข้ โดยคนไข้หรือญาติจะต้องเป็นคนประสานงานจากจังหวัดต้นทางและจังหวัดปลายทางเองทั้งหมด โดยทางบริษัทเองมีระเบียบตรวจสอบเช่นเดียวกัน ทำให้ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการเตือนว่า หลังจากนี้ควรตรวจสอบให้ดีมากกว่านี้ แต่จะยังไม่มีการดำเนินคดี

blank

นายณัฐวุฒิ บอกอีกว่า หลังจากเกิดเรื่องดังกล่าว ทางบริษัทได้ระงับการให้บริการไว้ชั่วคราว ส่วนเรื่องของคดีความทางบริษัทได้มีการปรึกษาทนายแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีใคร ที่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทุกอย่างเก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว ที่บริษัทออกมาพูดในวันนี้ เพราะอยากจะชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยบริษัทมีหลักฐานยืนยันความจริงทุกประการ ขอยืนยันว่าทางรถพยาบาลไม่ได้ทิ้งผู้ป่วยแต่อย่างใด โดยทางบริษัทอยากจะขอความเป็นธรรมมา ณ ที่นี้ด้วย