เจ้าของรีสอร์ตเชียงใหม่ใจป้ำ! เปิดสนามแข่งรถวิบาก ให้ชาวบ้านตากกระเทียมฟรี ไม่คิดค่าเช่า
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่บ้านแม่อ้อใน ม.8 ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้มีการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์วิบากขึ้น ซึ่งผู้จัดได้จัดเป็นแบบการกุศลเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือในการสร้างกุฏิวัดแม่อ้อในและเวทีเพื่อหมู่บ้านของตัวเองโดยมีนักแข่งขันจักรยานยนต์วิบากเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้หลังจัดงานแข่งเสร็จแล้วเจ้าของสนามยังใจดีให้ชาวบ้านในพื้นที่นำกระเทียมมาตากผึ่งแดดเพื่อไล่ความชื้นโดยไม่คิดค่าเช่าที่อีกด้วย
โดยนายวรัชวิทย์ ตาธงรส อายุ39 ปี เจ้าของธุรกิจบ้านระเบียงไม้รีสอร์ตและเจ้าของสนามแข่งขันจักรยานยนต์วิบาก ได้เปิดเผยว่า แต่เดิมที่ดินผืนนี้ซึ่งมีขนาด 30 ไร่ ได้ทิ้งไว้รกร้างว่างเปล่า แต่หลังจากนั้นก็มีกลุ่มขับรถจักรยานยนต์ที่ตนรู้จักได้ชักชวนให้จัดงานแข่งขันขึ้น ซึ่งการจัดการแข่งขันครั้งนี้ก็เพื่อระดมทุนเพื่อสร้างกุฏิสงฆ์ในพื้นที่วัดแม่อ้อในและนอกจากนี้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วยังจัดซื้อเวทีการแสดงเพื่อมอบให้กับหมู่บ้านแม่อ้อในที่เป็นบ้านเกิดของตนเองด้วยเช่นกัน แต่หลังจากจัดการแข่งขันเสร็จแล้วนั้นตนเองเห็นว่าสนามที่ใช้แข่งขันนี้มีพื้นที่กว้างขวางและอาจจะปล่อยให้ไม่เกิดประโยชน์ในภายหน้า จึงได้มีความคิดให้ชาวบ้านในพื้นที่บ้านแม่อ้อในแห่งได้นำกระเทียมที่ปลูกในพื้นที่นำมาตากไล่ความชื้น โดยก่อนหน้านั้นชาวบ้านส่วนใหญ่เวลาทำการเกษตรกระเทียมนั้นจะต้องนำไปตากตามที่ต่าง ๆ บางทีก็เกิดกีดขวางทางจราจรด้วย ทั้งนี้ตนเองจึงได้เปิดให้ชาวบ้านนำกระเทียมเข้ามาตากในพื้นที่สนามแข่งขันที่จัดแข่งเสร็จแล้วโดยไม่มีการเก็บค่าเช่าที่แม้แต่บาทเดียวและนอกจากนี้พื้นที่ของสนามแข่งขันนั้นยังสะดวกต่อการที่ชาวบ้านจะนำรถยนต์เข้าออกได้ง่ายด้วย ทั้งนี้ในหมู่บ้านแห่งนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่จะมีอาชีพทำการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ โดยจะปลูก ลำไย มะม่วง พริกและกระเทียม ทั้งนี้การที่ตนเอื้อเฟื้อพื้นที่ของตนให้ชาวบ้านได้เข้ามากันนั้นก็จะทำให้ราคาของกระเทียมดีขึ้นก็เป็นได้หลังจากที่ได้ตากไล่ความชื้นออกไป
“ในเวลานี้ชาวบ้านสามารถนำกระเทียมมาตากได้อย่างอิสระเต็มที่ เพราะตนอยากจะทำสิ่งดี ๆ เพื่อบ้านเกิดของตนเองและอยากให้ชาวบ้านมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การเอื้อสนามแข่งขันจักรยานยนต์วิบากนี้นั้นก็เพื่อที่จะทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมกับตนและตนเองก็อยากมีส่วนร่วมที่ดีกับชาวบ้านมากที่สุดเช่นกัน” นายวรัชวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย
