คณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจ ดัน “เลือกตั้งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ” มีมติส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณา
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 65 นายซูการ์โน มะทา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยะลา เขต.2 พรรคประชาชาติ ได้ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ ครั้งที่ 83 ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ N 404 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
โดยได้ดำเนินการตามระเบียบวาระการประชุม
ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม
รายงานของคณะกรรมาธิการฯ ได้รับการบรรจุระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว ในระเบียบวาระที่ 4 เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว
ระเบียบวาระ 4.21 เรื่อง ข้อเสนอการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ระเบียบวาระ 4.22 เรื่อง การจัดตั้งเทศบาลนครแหลมฉบังเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ
ระเบียบวาระที่ 2 รับรองบันทึกการประชุม (เลื่อน)
ระเบียบวาระที่ 3 เรื่องพิจารณา
พิจารณาเรื่อง การเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ โดยเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมดังนี้
1.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่งตัวแทนมาเข้าร่วมประชุม
– นายชยาวุธ จันทร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
2. ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายวิฑูร เอียมโอภาส
3.ผู้แทนกลุ่ม We’re all voters : เลือกผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเกิดขึ้นจริง นายสันติสุข กาญจนประกร
เนื่องด้วยทางกลุ่ม We’re all voters : เลือกผู้ว่าฯทั่วประเทศต้องเกิดจริง ร่วมกับ Change .org ได้รณรงค์ให้เกิดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการทั่วประเทศ พร้อมให้ประชาชนร่วมลงชื่อ 15,557 รายชื่อที่สนับสนุนทาง Change.org/WeAll/Votes โดยมีวัตถุประสงค์
1.ผลักดันการรณรงค์เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้เข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจฯ และรัฐสภา โดยมีหลักการเบื้องต้นว่า ผู้ว่าฯจากการแต่งตั้งนั้น ไม่เป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย ไม่รู้ปัญหาในพื้นที่จริง และไม่เกิดการแข่งขันเชิงนโยบายให้ประชาชนได้ตัดสินใจ เหมือนผู้ว่าฯจากการเลือกตั้ง
2.แก้รัฐธรรมนูญให้เกิดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการทุกจังหวัด เพื่อเกิดการกระจายอำนาจสู่ประชาชน
3.สืบเนื่องจากข้อที่ 2 เราหวังว่าจะเกิดการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อปลดล๊อกท้องถิ่นให้มขอบเขตอำนาจ และการใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะนำไปสู่การสร้างสรรค์พัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกจังหวัดโดยไม่รวมศูนย์ความเจริญอยู่เพียงเมืองหลวง
มุมมองของตัวแทนกระทรวงมหาดไทย : ข้อเท็จจริงราชการส่วนภูมิภาคยังมีความจำเป็นต้องยึดโยงกัน เพราะการบริหารราชการตามนโยบายรัฐบาลกลาง และมีกฎหมายหลายฉบับที่ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดในการสั่งการต่าง ๆ แต่ก็เห็นด้วยว่าจะต้องมีการปฏิรูประบบราชการที่จะต้องมาทบทวนบทบาทอำนาจหน้าที่กันให้ชัดเจน เพราะลักษณะงานหลายอย่างยังมีการรวมศูนย์อำนาจที่ส่วนกลาง โดยเฉพาะเรื่องการจัดบริการสาธารณะควรที่ส่งมอบให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ปฏิบัติ ไม่ใช่งบประมาณส่วนใหญ่ยังรวมศูนย์อยู่ที่ส่วนกลาง กระทรวง กรมต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องปฏิรูประบบราชการ Change for good. ประการสำคัญที่สุดหากสภาผู้แทนราษฎรออกกฎหมาย…กระทรวงมหาดไทยก็ปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะข้อเท็จจริงการเปลี่ยนแปลงการปกครองในอดีตในระบบศักดินา ระบบเจ้าเมือง ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมาที่ต้องการให้มีการยึดโยงกับประชาชน…
ซึ่งประเด็นการนำเสนอกฎหมายเข้าสู่ทางคณะกรรมาธิการ ได้นำเสนอรายงานการศึกษาของคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ เรื่อง การบริหารราชการรูปแบบจังหวัดจัดการตนเอง ซึ่งในรายงานก็มีภาคผนวช ก็มีการยกร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการจังหวัดจัดการตนเอง พ.ศ…เหตุผล โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 249 กำหนดให้มีการจัดการปกครองท้องถิ่นตามหลักแห่งการปกครองตนเองตามเจตนารมย์ของประชาชนในท้องถิ่น และเพื่อให้การปกครองส่วนท้องถิ่นบรรลุตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 249 – มาตรา 254 จึงจำเป็นต้องตรา พ.ร.บ.นี้ มีทั้งหมด 124 มาตราด้วยกัน
ซึ่งมีข้อสรุปดังนี้
1.การจัดตั้งจังหวัดจัดการตนเอง
2.การกำหนดให้ยกเลิกราชการส่วนภูมิภาคในจังหวัดที่ได้จัดตั้งเป็นจังหวัดจัดการตนเอง
3.การกำหนดหลักการพื้นฐานของการปกครองส่วนท้องถิ่น
4.การกำหนดให้การบริหารจังหวัดจัดการตนเอง ประกอบด้วยโครงสร้าง 3 ส่วน (สภาจังหวัดจัดการตนเอง ผู้ว่าราชการจังหวัด และสภาพลเมืองจัดการตนเอง ฯลฯ
มติที่ประชุมเห็นควรส่งเรื่องดังกล่าวให้กระทรวงมหาดไทย และนายซูการ์โน มะทา ประธานคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ…พร้อมจัดอบรมสัมมนาเพื่อรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้