กลุ่มนักศึกษาวิจิตรศิลป์ มช. บุกห้องคณบดี เหตุบุกยึดผลงานศิลปะ ชี้ผลงานมีความเสรีทางการแสดงออก ด้านคณะวิจิตรศิลป์ มช. ออกแถลงชี้ผลงานบางชิ้นหมิ่นเหม่ผิดกฎหมาย หวั่นเกิดผลกระทบต่อคณะ
วันที่ 23 มี.ค.64 รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่เกิดเรื่องในรั้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ปรากฏคลิปวิดีโอในเพจ “ประชาคมมอชอ” ที่ทางคณบดี คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมพวกเข้ารื้อและเก็บผลงานศิลปะของนักศึกษา คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่จัดแสดงอยู่ที่บริเวณ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จนทำให้เกิดเหตุเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มของคณบดีคณะวิจิตรศิลป์ และนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ และมีการโต้เถียงกัน นักศึกษาได้มีการนอนขวางรถ จนสุดท้ายไม่ได้มีการนำงานนักศึกษาออกไป และทางนักศึกษาไปแจ้งความไว้ ที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์
ขณะที่ในเวลาต่อมา ช่วงบ่ายวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่าบรรยากาศยังเป็นปกติ มีนักศึกษาและคณาจารย์ เข้ามาปฏิบัติภารกิจตามปกติ โดยนักศึกษาได้มีการนั่งจับกลุ่มพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกันทางด้าน ผศ.ดร.ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ประจำสาขาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรากฏตัวในคลิปวิดีโอ ออกมาปกป้องนักศึกษา เปิดเผยว่า ที่ออกมาปกป้องนักศึกษาเพราะว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่มีความชอบธรรม ที่จะมากีดกันหรือ บอกว่านักศึกษาทำอะไรไม่ได้ ศิลปะคือเสรีภาพในการแสดงออก คุณไม่มีสิทธิ์ไปบอกว่าใครทำผิดทำถูก ยกตัวอย่างเช่น มีนักเขียนหนึ่งคนกำลังเขียนหนังสือเรื่องอะไรก็ตามแต่ แต่มีนักเขียนอีกกลุ่มไม่ชอบ นักเขียนกลุ่มนั้นไปดึงปากกาที่เขาเขียนหนังสือไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ที่จริงแล้วต้องออกมาส่งเสริมเด็กเขาให้ได้พูดในสิ่งที่เขาคิด ได้แสดงออกในสิ่งที่เขาเป็นไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ไม่ใช่เอาเท้าไปเขี่ยผลงานเขา
และโดยเฉพาะลักษณะนี้เป็นการคุกคามในรั้วมหาวิทยาลัย ที่ควรจะเป็นพื้นที่เสรีภาพให้นักศึกษา แสดงความคิดเห็นและแสดงออก และสิ่งที่พูดไปเมื่อวานว่า ศิลปะไม่ได้เป็นนายใครหรือทำเพื่อรับใช้ใคร เพราะว่าปัจจุบันมีศิลปินหรือนักศิลปะหลายคน ใช้ผลงานศิลปะเป็นบันไดในการก้าวขึ้นไปหายศถาบรรดาศักดิ์ สร้างความชอบธรรมให้ตนเอง เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ชื่อเสียง รางวัล และเกียรติยศต่างๆตรงนี้ทำให้เขาหลงทาง นำมาซึ่งการขาดความเคารพตนเอง เขาต้องการพยายามจะทำให้ศิลปะของเขานั้นสูงส่งกว่าของคนอื่น และอาจไปทำงานรับใช้คนนั้นคนนี้
ในฐานะอาจารย์สอนนักศึกษาทุกวันว่า ไม่ได้อยากให้นักศึกษาที่จบออกไป ไม่จำเป็นต้องเป็นศิลปินทุกคน แต่ต้องมีความเชื่อมั่นและความเคารพ ในศักดิ์ศรีความเป็นคนของตนเอง เชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองเป็น พลังงานตรงนี้จะทำให้เขาสามารถเอาตัวรอดได้ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน
ขณะที่ในเวลาต่อมา ช่วงบ่ายวันนี้ เวลาประมาณ 14.00 น. ทางด้านนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีการรวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้าตึกคณะ เพื่อร่วมกันทำกิจกรรม โดยได้มีการนำกระดาษมาติดทับป้ายชื่อคณะ เปลี่ยนชื่อเป็น “ขณะวิจิตรสิ้น” อีกทั้งยังได้มีการร่วมกันนำถุงขยะสีดำ ที่มีการติดป้ายกระดาษ ระบุว่า “มอบให้คณบดีและพวกเพื่อใช้ปฏิบัติหน้าที่” โดยทางกลุ่มคณะนักศึกษาส่วนหนึ่งได้มีการช่วยกันทำความสะอาดเก็บกวาดพื้นที่คณะ และได้มีการรวบรวมสิ่งของที่เก็บใส่ถุงดำมาวางกองรวมกันไว้ที่บริเวณหน้าป้ายคณะ และนอกจากนี้ทางกลุ่มนักศึกษายังบอกว่าจะมีการรวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือทวงถามเหตุผลกับทางอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ คณบดีคณะวิจิตรศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อีกด้วย
ทั้งนี้จากการสอบถามทาง นายวิทญา คลังนิล อายุ 23 ปี นักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ มช.ปี 4 ซึ่งเป็นบุคคลที่นอนขวางรถตามที่ปรากฏภายในคลิปเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นกลุ่มคนเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว ก็ถามว่ามาทำอะไร แต่กลับถูกถามมาว่าตนเองเรียนอยู่คณะอะไร ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ทำงานของนักศึกษา โดยงาน “แพตติเคิล รีเสริช” การที่จะได้ข้อมูลมาก็ต้องมีการทำงาน และไม่เกี่ยวว่าจะเป็นงานส่วนตัวหรือไม่ เพราะงานที่จะพัฒนาความรู้นักศึกษานั้นนักศึกษาก็สามารถทำได้ และเมื่อถามว่ามาจากไหน บุคคลเหล่านี้ก็ไม่ยอมตอบ และบอกเพียงว่า ให้ไปดูเอาเองว่าเป็นใคร แต่การที่จะเข้ามาทำแบบนี้ก็ไม่สมควร อย่างน้อยก็ควรจะมีหนังสือชี้แจงหรือหลักฐานชัดเจน เพราะพื้นที่ดังกล่าวก็เป็นพื้นที่ทำงานของนักศึกษา แม้ว่าจะดูสกปรก รกรุงรังบ้าง แต่ก็เป็นการทำงานของนักศึกษา และไม่ใช่เรื่องที่จะมาอ้างว่าต้องรักษาความสะอาด
นอกจากนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าผลงานของนักศึกษาถูกเก็บยัดใส่ถุงดำ ซึ่งบางส่วนก็มีผลงานของตนด้วย อีกทั้งผลงานก็ได้รับความเสียหาย แม้บางผลงานที่ถูกจัดไว้บนต้นไม้ก็ยังมีความพยายามที่จะขึ้นไปเก็บ เพราะงานที่เสียหายนั้นเป็นงาน “อิสตอลเลชั่น” ที่ไม่ได้อยู่ในเฟรม รวมไปถึงมีวัสดุบางชิ้นหายไป และบางอันก็ได้รับความเสียหาย โดยผลงานของตนและผลงานอื่นๆ ที่ถูกเก็บไปนั้น เป็นผลงานศิลปะการเมือง ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่างานศิลปะเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับใครยังไง รวมไปถึงมีใครรับคำสั่งมาหรือยังไง ตนก็ไม่ทราบ และผลงานเหล้านี้ก็ถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกของนักศึกษา และการที่กลุ่มคนดังกล่าวเข้ามากระทำการลักษณะเช่นนี้ก็ถือเป็นการคุกคามเสรีภาพของนักศึกษาในการแสดงออกด้วย และตนก็ยืนยันว่าพื้นที่สาขา “media art and design” ก็เป็นคนละพื้นที่กับการจัดแสดงงานในหอศิลป์อยู่แล้ว และเป็นพื้นที่ที่นักศึกษาใช้ในการเรียนรู้ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องขออนุญาตในการนำผลงานมาจัดวางไว้
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ทางคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดย รศ.อัศวิณีย์ หวานจริง คณบดี คณะวิจิตรศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีการออกหนังสือแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่า
ตามที่มีกลุ่มบุคคลใช้พื้นที่บริเวณคณะวิจิตรศิลป์ และได้ปรากฏข่าวในสื่อสังคมออนไลน์นั้น ทางคณะวิจิตรศิลป์ขอชี้แจงว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 22 มีนาคม 2564 เวลาประมาณ 14.00 น. ทางคณะวิจิตรศิลป์ ได้เข้าเตรียมพื้นที่บริเวณหอศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของคณะวิจิตรศิลป์ เพื่อจัดเตรียมแสดงงานนิทรรศการศิลปนิพนธ์ของนักศึกษาสาขาวิชาต่างๆ ทั้งของคณะวิจิตรศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสถาบันการศึกษาอื่น ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างเดือน มีนาคมถึงพฤษภาคม 2564
จากการเจ้าไปดำเนินการในพื้นที่ ได้พบวัสดุอุปกรณ์ บริเวณด้านหลังหอศิลปวัฒนธรรม จากการสอบถามนักศึกษาบริเวณนั้นแจ้งว่า ไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใด และไม่มีผู้ใดรับเป็นเจ้าของ คณะวิจิตรศิลป์ จึงได้ตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ดังกล่าว พบว่าวัสดุบางรายการที่หมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมาย (ธงชาติไทยที่ถูกดัดแปลงและมีข้อความไม่เหมาะสม) ดังนั้นเพื่อมิให้เกิดผลกระทบ ต่อนักศึกษาและคณาจารย์ของคณะวิจิตรศิลป์ โดยรวม จึงได้เก็บรวบรวมวัสดุอุปกรณ์ทั้งหมด เพื่อรอมารับคืนต่อไป ลงชื่อคณะวิจิตรศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 23 มีนาคม 2564
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลาประมาณ 14.50 น. ทางกลุ่มคณะนักศึกษาที่ได้มีการรวมกลุ่มกันก่อนหน้านี้ ได้ร่วมกันเดินทางขึ้นไปยังบริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นสำนักงานอธิการบดี คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อขอเข้าพบกับ รศ.อัศวิณีย์ หวานจริง คณบดี คณะวิจิตรศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่ปรากฏว่าทางคณบดี ไม่อยู่ในพื้นที่ และไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนแสดงตัวหรือมาพบปะกับทางกลุ่มนักศึกษา โดยต่อมาทางกลุ่มได้มีการแสดงออกเชิงสัมภาษณ์โดยการนำถุงดำที่มีการติดป้ายกระดาษ ระบุว่า “มอบให้คณบดีและพวกเพื่อใช้ปฏิบัติหน้าที่” มามอบให้กับทางคณบดี และเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งมีการนำโถส้วมชักโครกมาวางไว้ยังบริเวณหน้าห้องเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่ากลุ่มนักศึกษานั้นได้มาขอเข้าพบแต่กลับไม่ได้รับการตอบรับจากคณบดี ก่อนที่ทั้งหมดจะสลายตัวเดินทางกลับอย่างสงบ