สถาบันโรคผิวหนัง เตือนอย่า! ใช้มือปัด บีบขยี้ “แมลงก้นกระดก” พิษทำให้ผิวหนังอักเสบ แสบร้อน มีตุ่มน้ำ

3

6 ธ.ค. 68 – นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า “ด้วงก้นกระดก หรือ ด้วงปีกสั้น เป็นแมลงลำตัวยาว สีส้มสลับดำ ตัวแมลงไม่ได้กัดหรือดูดเลือด แต่จะปล่อยสารพิษชื่อ “เพเดอริน (Pederin)” ออกมาเมื่อถูกรบกวน เช่น ถูกปัด ถูกบีบ หรือถูกขยี้ ทำให้ผิวหนังบริเวณที่สัมผัสเกิดการอักเสบ ผู้ป่วยมักมีผื่นแดง แสบร้อน คัน หรือเกิดตุ่มน้ำ โดยอาการมักเริ่มขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง พบบ่อยบริเวณใบหน้า คอ แขน ขา และลำตัว

นายแพทย์วีรวัต อุครานันท์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวเพิ่มเติม แม้ผิวหนังอักเสบจากด้วงก้นกระดกจะไม่เป็นอันตรายร้ายแรง แต่หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมอาจทำให้เกิดรอยดำหรือแผลเป็นได้ จึงขอให้ประชาชนตระหนักและปฏิบัติตัวอย่างถูกวิธี หากมีอาการผิดปกติควรเข้ารับการประเมินโดยแพทย์ วิธีป้องกันทำได้โดย หลีกเลี่ยงการใช้มือปัดหรือขยี้แมลง ให้ใช้กระดาษหรือวัสดุอื่นค่อย ๆ เขี่ยออก ปิดประตูหน้าต่าง หรือใช้มุ้งลวดในเวลากลางคืน ลดการเปิดไฟล่อแมลงและซักเสื้อผ้าหากสงสัยว่าสารพิษอาจปนเปื้อน

นายแพทย์ปุณวิศ สุทธิกุลณเศรษฐ์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า อาการส่วนใหญ่ไม่รุนแรง และมักดีขึ้นภายใน 1–2 สัปดาห์ แต่อาจทิ้งรอยดำหรือแผลเป็นได้ โดยเฉพาะหากมีการติดเชื้อแทรกซ้อนจากการเกาคำแนะนำในการดูแลเบื้องต้น
1. หากสัมผัสแมลงหรือมีอาการผิดปกติบนผิวหนัง ควร รีบล้างบริเวณที่สงสัยด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อน
2. ทายาลดการอักเสบกลุ่มสเตียรอยด์ปานกลางถึงสูง เพื่อลดอาการแสบร้อน และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เขี่ยวชาญ
3. หากมีตุ่มหนอง แผลบวมแดงมาก หรือเป็นบริเวณใบหน้า ควรรีบพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

595068694 1195726689410060 5334349084721827682 n