เชียงใหม่ – มาดามหยก ย้ำ #ก้าวอิสระ คือศูนย์รวม ‘จิตอาสา’ พร้อมเป็นทางเลือกใหม่คนไทย ชี้เลือกตั้งหน้าเน้น ‘คะแนนพรรค’ สู้ทุกพื้นที่
พรรคก้าวอิสระ เลือกหัวหน้าสาขาเชียงใหม่ ได้คนรุ่นใหม่ น้องอิม นักศึกษาสาวชั้นปีที่ 3 มาเป็นหัวหน้าสาขาพรรค แทนมาดามหยก ที่ลาออกไปรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวอิสระ และมาดามหยก ยังเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และมีความพร้อม หากยุบสภา มีการเลือกตั้งใหม่ปี 2569 และหวังคะแนนจากปาร์ตี้ลิสต์ 10 – 15 ที่นั่ง
วันนี้ 5 ธันวาคม 2568 ที่อาคาร เอนกประสงค์ บ้านเลขที่ 127 หมู่ 8 ตำบลสันทราย อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ พรรคก้าวอิสระ ได้มีการเลือกตั้งกรรมการสาขาพรรค ก้าวอิสระ ลำดับที่ 010 จังหวัดเชียงใหม่ ที่ว่างลง โดยเปิดให้สมาชิกลงทะเบียน ตั้งแต่ 08.00-9.00น.เมื่อสมาชิกพร้อม จึงได้เปิดให้มีการลงคะแนน เลือกตั้งกรรมการสาขาพรรค และหัวหน้าสาขาพรรค แทน นางสาว กชพร เวโรจน์ หรือ มาดามหยก ที่ลาออก ไปนั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวอิสระ โดยวิธีการเสนอชื่อเพียง 1 คน แล้วกากบาท เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย โดยมีคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย
ผลการเลือกตั้ง นางสาว นงลักษณ์ นพรัตน์ อายุ 21 ปี หรือ น้องอิม นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาอิเล็กทรอนิกส์การแพทย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาเชียงใหม่ ได้เป็นหัวหน้าสาขาพรรคฯ ซึ่งถือว่าน้องอิมอายุยังน้อย แต่มีความสามารถ และเป็นยุคของคนรุ่นใหม่ ทางการเมืองจริงๆ
นางสาว กชพร เวโรจน์ หรือมาดาม หยก หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ เปิดบ้านพัก ย่านตำบลป่าแดด ในตัวเมืองเชียงใหม่ ร่วมหารือกับคณะกรรมการฯ ในการเตรียมความพร้อม การเลือกตั้ง พร้อมทั้งกล่าวว่า ทางพรรคก้าวอิสระ มีความพร้อม หากมีการยุบสภา และมีการเลือกตั้งใหม่ ในปี 2569 โดยเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ที่มีใจเป็นจิตอาสา เข้ามามีบทบาท ในทางการเมือง และทำงานเพื่อสังคม หากมีการเลือกตั้ง เราไม่ได้มุ่งหวังที่ตัวส.ส.เขต แต่เราหวังทุกคะแนน จากประชาชนที่จะเลือกพรรคก้าวอิสระ เพราะเรามีอาสาสมัครในนามอินดี้ ทีมลงไปทำงานทุกที่ โดยเฉพาะที่ชายแดนภาคอีสาน ตั้งแต่มีการปะทะ จวบจนถึงทุกวันนี้ เราไม่เคยถอยออกมา ยังอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนและเหล่าทหารกล้า ทุกพื้นที่ที่มีภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม หรือแผ่นดินไหวเราก็มีทีมลงพื้นที่ไปช่วยเหลือ เราไม่อยากส่งใครลงสู้กับผู้หลัก ผู้ใหญ่ เรามีความเป็นกลาง เราคิดว่าถ้าไปแข่งขัน กับพรรคการเมืองเดิม คนเดิมอาจจะเหนื่อยมาก มีหลายคนที่เคยเป็นอดีต ส.ส. และอดีตรัฐมนตรี จะมาร่วมทีมกับเราแต่ถ้าทำให้อุดมการณ์พรรคเปลี่ยนไป และเราก็ต้องให้เกียรติกับสมาชิกพรรค ที่รักและศรัทธาพรรค เพราะพรรคเราเกิดจาก อาสาสมัครทั่วประเทศที่ ทำงานเพื่อสังคม มีจิตอาสา เมื่อมาทำงานการเมือง เราไม่ได้คิดเรื่องผลประโยชน์ แต่เรามุ่งที่การเสียสละ และต้องการให้เกิด ความเปลี่ยนแปลง เป็นสถาบันการเมืองที่ดี เป็นที่พึ่งต่อสังคม ต้องมีความเสียสละ ทำประโยชน์ต่อสังคม ส่วนรวม ละวางความเห็นแก่ตัวลง เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี นำไปสู่สังคมและประเทศชาติ เราจึงอาสาเป็นพรรคทางเลือก ให้กับพี่น้องประชาชน เรามุ่งหวัง ส.ส.ที่ได้คะแนนจากปาร์ตี้ลิสต์ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ 10 – 15 คน และครั้งนี้ยังเสนอชื่อ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วย











































