กระทรวงเกษตรฯ วาง 3 มาตรการใหญ่แก้ “ลำไย” ล้นตลาด เตรียมทุ่มงบ 1 พันล้าน พัฒนาผลผลิตคุณภาพสูง

7

21 ก.ค. 68 – นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานโครงการรวมพลคนลำไยเพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตสู่การแข่งขันได้ในตลาดโลกอย่างยั่งยืน ปี 2568 และพบปะพี่น้องเกษตรกรชาวสวนลำไยจาก 8 จังหวัดภาคเหนือ (เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง ตาก) กว่า 6,000 คน โดยมี นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

นายอรรถกร กล่าวว่า การจัดโครงการรวมพลคนลำไยในวันนี้ เป็นการรวมพลังพี่น้องเกษตรกรชาวสวนลำไยทั้ง 8 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อร่วมกันหาทางออกและก้าวผ่านสถานการณ์ลำไยที่เรากำลังเผชิญ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการติดตามสถานการณ์ลำไยอย่างใกล้ชิด พบว่าในช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคมนี้มีปริมาณลำไยเพิ่มมากขึ้นประมาณ 120,000 – 140,000 ตัน จึงได้กำหนดมาตรการในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเร่งระบายลำไยออกจากระบบ ขณะเดียวกันต้องเตรียมพร้อมกระจายลำไยที่กำลังออกผลผลิตสู่ตลาด ผ่าน “โครงการสินเชื่อเพื่อซื้อลำไยเพื่อแปรรูปอบแห้งปลอดดอกเบี้ย” โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมวิชาการเกษตรร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) รวมถึง “โครงการกระจายผลผลิตลำไยสด” โดยประสานงานร่วมกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กระทรวงศึกษาธิการ ทัณฑสถาน และหน่วยงานเอกชน เพื่อขยายตลาดและกระจายลำไยในอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ เพื่อยกระดับผลผลิตลำไยคุณภาพสูง และสร้างภาพจำใหม่ของลำไยไทย โดยการทำเกษตรประณีต กระทรวงเกษตรฯ เตรียมเดินหน้าโครงการพัฒนาสวนลำไยคุณภาพเพื่อเพิ่มรายได้ วงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับการสนับสนุนค่าตัดแต่งทรงพุ่ม ช่อดอก ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ต่อครัวเรือน อีกด้วย

ด้านนายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับลำไยภาคเหนือมีช่วงเก็บเกี่ยวตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้เริ่มมีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดบ้างแล้ว ซึ่งในปี 2568 นี้ ลำไยภาคเหนือมีปริมาณการเก็บเกี่ยวรายวันเพิ่มสูงขึ้น ตามข้อมูลเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 มียอดเก็บเกี่ยวรายวัน 5,221 ตัน และมียอดเก็บเกี่ยวสะสม 102,436 ตัน คิดเป็นร้อยละ 13.83 โดยจะมีช่วงพีคในเดือนสิงหาคมนี้ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรพร้อมเดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระยะยาว ผ่านการยกระดับคุณภาพ สร้างมูลค่าเพิ่ม และวางระบบการตลาดที่ยั่งยืน หากสามารถขับเคลื่อนตามแผนได้ต่อเนื่อง จะไม่เพียงแต่แก้ปัญหาลำไยล้นตลาด แต่ยังสร้างความมั่นคงให้แก่เกษตรกร และคืนความเชื่อมั่นให้ลำไยไทยในตลาดโลก

จากนั้น นายอรรถกร พร้อมด้วยนายอัครา และคณะผู้บริหาร ได้ร่วมประชุมหารือแนวทางการรับมือพายุและสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ 8 จังหวัด (เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง ตาก) โดย รมว.อรรถกร เน้นย้ำกับทุกหน่วยงานในสังกัดให้เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์ขึ้น ทั้งในด้านการแจ้งเตือน การเตรียมความพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือ และการเข้าถึงพื้นที่ประสบเหตุ เพื่อการเข้าฟื้นฟูและบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องเกษตรกรได้อย่างทันถ่วงที