16 ธ.ค. 68 – นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวเชิญชวนผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 ใช้สิทธิประโยชน์กรณีทันตกรรมประจำปี 2568 ก่อนสิ้นปี เพื่อดูแลสุขภาพช่องปากและลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล โดยสิทธิทันตกรรมเป็นสิทธิที่ผู้ประกันตนพึงได้รับเป็นประจำทุกปี
นางสาวกาญจนา พูลแก้ว กล่าวว่า ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และผ่าตัดฟันคุด โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ณ สถานพยาบาลที่ทำความตกลงกับสำนักงานประกันสังคม ในวงเงินไม่เกิน 900 บาทต่อคนต่อปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยสามารถใช้สิทธิที่ใดก็ได้ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกของผู้ประกันตน สามารถใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวเข้ารับบริการทางทันตกรรมโดยไม่ต้องสำรองจ่ายกับสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ โดยสอบถามกับสถานพยาบาลที่ท่านใช้บริการ หรือสังเกตป้ายหรือสัญลักษณ์ “ให้บริการผู้ประกันตนกรณีทันตกรรม ทำฟัน ไม่ต้องสำรองจ่าย” ส่วนในกรณีผู้ประกันตนเข้ารับบริการกรณีทันตกรรมในสถานพยาบาลที่ไม่ได้ทำความตกลงกับสำนักงานประกันสังคมเรื่องการเบิกจ่าย ผู้ประกันตนสามารถยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนออนไลน์ E-Self Service ผ่านเว็บไซต์ www.sso.go.th พร้อมแนบหลักฐาน ประกอบด้วยใบเสร็จรับเงิน ใบรับรองแพทย์และสำเนาสมุดบัญชีธนาคาร หรือยื่นที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ
นอกจากนี้ สิทธิประโยชน์กรณีทันตกรรมของสำนักงานประกันสังคมยังคุ้มครองถึงการใช้สิทธิใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้ ทั้งแบบบางส่วนและทั้งปาก ภายในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ใส่ฟันเทียม โดยฟันเทียมชนิดถอดได้บางส่วน มีสิทธิได้รับค่าบริการตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,500 บาท และฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปาก ได้รับค่าบริการตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 4,400 บาท ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
พร้อมกันนี้ สำนักงานประกันสังคมได้กำชับมาตรการกำกับดูแลสถานพยาบาลที่ให้บริการแก่ผู้ประกันตนอย่างเคร่งครัด โดยหากตรวจพบว่าสถานพยาบาลมีพฤติกรรมขอรับค่าบริการทางการแพทย์อันเป็นเท็จ สำนักงานประกันสังคมมีมาตรการเพื่อกำกับดูแลเพื่อความเป็นธรรม ตั้งแต่การเรียกคืนค่าบริการ การเรียกค่าปรับไม่เกินสิบเท่าของจำนวนเงินที่ขอรับโดยมิชอบ การเรียกร้องค่าเสียหาย การระงับการจ่ายค่าบริการ ไปจนถึงการดำเนินคดีอาญาและแจ้งหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลหรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรม


































