15 ก.ย. 68 – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยความคืบหน้ามาตรการจัดการบัญชีม้า โดยได้หารือกับหน่วยงานต่างๆ และเร่งแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อลดผลกระทบต่อผู้สุจริต โดยแนวคิดของมาตรการแก้ปัญหาบัญชีม้าที่ต้องมีการตามอายัดหรือระงับธุรกรรมทุจริต ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทั้งหมดต้องรักษาสมดุลระหว่างการช่วยเหลือเหยื่อให้สูญเสียน้อยที่สุด กับความสะดวกในการใช้บริการ Mobile banking ของประชาชนทั่วไป
ที่ผ่านมา มาตรการแก้ไขบัญชีม้ามีออกมาต่อเนื่อง แต่ยังมีผู้เสียหายจำนวนมาก ดังนั้น ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) ภายใต้กระทรวงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) และ ธพ. ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาบัญชีม้า ด้วยการขยายขอบเขตการติดตามเส้นเงินในการทำทุจริต เพื่อกักเงินมาคืนเหยื่อ/ผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนผู้สุจริตในเส้นเงินมากขึ้น
ธปท. จึงได้หารือกับ ศปอท. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และ ธพ. แล้ว เห็นชอบร่วมกันที่จะปรับแนวทางการระงับธุรกรรมและกระบวนการปลดการระงับ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนผู้สุจริต โดยในส่วนของภาคธนาคาร ธปท. ได้ให้ ธพ. ดำเนินการดังนี้
o ลดระยะเวลาการปลดการระงับให้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องรอให้ถึง 72 ชั่วโมง หรือ 7 วันแล้วแต่กรณี ตามที่กำหนดใน พ.ร.ก. โดย ธพ. จะตรวจสอบข้อมูลของผู้ได้รับผลกระทบ ที่ได้รับจาก ศปอท. โดยเร็วที่สุด ไม่เกินกว่า 2 ชั่วโมง (วันละ 3 รอบ) เพื่อส่งกลับให้ ศปอท. ประมวลผล (ไม่เกิน 2 ชั่วโมง) และส่งกลับมาแจ้งธนาคารพาณิชย์ เพื่อปลดการระงับธุรกรรม
o เร่งปรับการแจ้งผู้ถูกระงับธุรกรรมให้มีความชัดเจน ถึงลักษณะการถูกระงับและสิ่งที่ผู้ได้รับผลกระทบนั้นต้องทำต่อ และให้เป็นมาตรฐานยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การถูกอายัดบัญชีในกรณีการกระทำทุจริตทางการเงิน จะต้องเป็นผู้ที่มีหมายอายัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ปปง. ได้พิสูจน์ความผิดแล้ว โดยการปลดอายัดในกรณีนี้จะมีกระบวนการที่ต่างออกไปจากการถูกระงับธุรกรรมข้างต้น
สำหรับการพิจารณาระงับธุรกรรมในเส้นเงิน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งปรับกระบวนการเพื่อลดผลกระทบต่อผู้สุจริตโดยเร็ว ขณะที่ยังต้องดูแลเหยื่อให้ยังได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสม