ตรวจวิเคราะห์น้ำเสียมีความสำคัญอย่างไร ใครบ้างจำเป็นต้องทำ ?

3

ปัญหามลพิษทางน้ำถือเป็นหนึ่งในประเด็นสิ่งแวดล้อมที่สำคัญและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ ระบบนิเวศ รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม น้ำเสียที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นในภาคอุตสาหกรรม การเกษตร หรือแม้แต่ครัวเรือน ล้วนมีผลต่อคุณภาพของแหล่งน้ำธรรมชาติ หากไม่มีการจัดการอย่างเหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดการสะสมของสารพิษ ทำลายชีวิตสัตว์น้ำ และกระทบต่อการใช้น้ำของชุมชนในบริเวณใกล้เคียง

หนึ่งในมาตรการที่ช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำเสียอย่างได้ผล คือ การตรวจวิเคราะห์น้ำเสีย ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยประเมินคุณภาพของน้ำที่ปล่อยออกจากแหล่งกำเนิด ก่อนที่จะไหลลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ การตรวจวิเคราะห์น้ำเสียจะช่วยระบุได้ว่า ในน้ำนั้นมีสารปนเปื้อน หรือมีปริมาณสารที่อาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมมากน้อยเพียงใด อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ประกอบการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถวางแผนการจัดการน้ำเสียได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของการตรวจวิเคราะห์น้ำเสีย

  • ป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน
    น้ำเสียที่ไม่ได้ผ่านการบำบัดอย่างเหมาะสม มักมีสารเคมี โลหะหนัก หรือเชื้อโรคที่สามารถปนเปื้อนไปยังแหล่งน้ำดื่ม น้ำใช้ หรือแม้แต่ในพืชผักที่บริโภค ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสัตว์อย่างรุนแรง การตรวจวิเคราะห์น้ำเสียจึงเป็นกลไกสำคัญในการควบคุมมลพิษไม่ให้แพร่กระจาย

  • เป็นเครื่องมือในการควบคุมและบำบัดน้ำเสียให้ได้ตามมาตรฐาน
    การตรวจวิเคราะห์น้ำเสียสามารถให้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการเลือกวิธีบำบัดที่เหมาะสม เช่น ถ้าน้ำเสียมีค่า BOD (Biochemical Oxygen Demand) สูง แสดงถึงปริมาณสารอินทรีย์ที่ย่อยสลายได้สูง ซึ่งต้องใช้กระบวนการบำบัดแบบชีวภาพ แต่ถ้ามีโลหะหนัก อาจต้องใช้การบำบัดทางเคมีหรือฟิสิกส์ เป็นต้น

  • สนับสนุนการดำเนินการตามกฎหมายและข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม
    พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กำหนดให้สถานประกอบการบางประเภทต้องทำการตรวจวิเคราะห์น้ำเสียอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงรายงานผลให้หน่วยงานภาครัฐรับทราบ การไม่ปฏิบัติตามอาจส่งผลให้ถูกดำเนินคดีหรือมีโทษปรับสูง

  • สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร
    ในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม องค์กรที่มีระบบตรวจสอบและจัดการน้ำเสียที่ดี ย่อมได้รับความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งลูกค้า นักลงทุน และหน่วยงานรัฐ

ใครบ้างที่จำเป็นต้องทำการตรวจวิเคราะห์น้ำเสีย?

  • โรงงานอุตสาหกรรม เช่น โรงงานอาหาร โรงงานเคมี โรงงานผลิตชิ้นส่วนโลหะ หรือโรงงานสิ่งทอ ซึ่งกระบวนการผลิตมักก่อให้เกิดน้ำเสียในปริมาณมากและมีสารปนเปื้อนหลากหลายชนิด

  • สถานบริการต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาล โรงแรม ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ที่มีระบบบำบัดน้ำเสียของตนเอง

  • องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีหน้าที่ดูแลระบบบำบัดน้ำเสียของชุมชน หรือดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่

  • ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือเกษตรกรรมในระบบปิด ซึ่งอาจมีการใช้น้ำปริมาณมากและมีการปนเปื้อนของสารอินทรีย์หรือเคมี

  • เจ้าของอาคารหรือโครงการขนาดใหญ่ เช่น หมู่บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม หรือนิคมอุตสาหกรรม ที่มีระบบน้ำเสียรวม

การตรวจวิเคราะห์น้ำเสียไม่ใช่แค่ข้อกำหนดตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานต่าง ๆ สามารถจัดการน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และเสริมสร้างความมั่นใจในความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม การตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจวิเคราะห์น้ำเสียตั้งแต่ต้นทาง จึงถือเป็นแนวทางการบริหารจัดการที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายในระยะยาว