ศธ. ชี้แจงแยกวิชาประวัติศาสตร์ ไม่ได้บังคับให้ “เด็กรักชาติ” แต่ปรับให้ทันสมัย น่าสนใจเท่านั้น

75

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 65 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบการแยกรายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ออกมาเป็น 1 รายวิชาอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะอยู่ในร่างประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การบริหารจัดการโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และ 1 รายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมกับพิจารณาแนวทางขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ปีงบประมาณ 2566 เพื่อเป็นแนวทางให้ต้นสังกัดของสถานศึกษา และสถานศึกษาสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

สำหรับการแยกรายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ออกมาเป็น 1 รายวิชานั้น ไม่สร้างความยุ่งยาก หรือสร้างภาระงานให้แก่ครูหรือนักเรียน เพราะเราต้องการให้การเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ไม่ใช่แค่การสู้รบของประเทศไทยในอดีตเท่านั้น แต่การเรียนประวัติศาสตร์มีอย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ท้องถิ่นหรือแม้กระทั่งประวัติศาสตร์โลก ซึ่งการเรียนประวัติศาสตร์แบบท่องจำเหมือนที่ผ่านมา อาจไม่ใช่คำตอบของการทำให้เด็กและเยาวชนไทยได้มีความภาคภูมิใจในความเป็นชาติเท่าที่ควร ดังนั้นโรงเรียนจะต้องมุ่งเน้น ให้เด็กรุ่นใหม่ตื่นตัวกับการเรียนประวัติศาสตร์รูปแบบใหม่มากขึ้น

การแยกวิชาประวัติศาสตร์ออกมาไม่ได้เป็นการบังคับให้เด็กรักชาติ แต่ต้องการปรับการเรียนประวัติศาสตร์ของเด็กให้มีความทันสมัยและน่าสนใจเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เป็นการเพิ่มชั่วโมงเรียน และไม่ได้กระทบกับงบประมาณ แต่เป็นการออกแบบโครงสร้างการเรียนใหม่ โดยเด็กจะเรียนเท่าเดิม แต่เน้นการศึกษาประวัติศาสตร์ เพื่อเชื่อมอดีตสู่อนาคตในมิติเศรษฐกิจสังคมและหน้าที่พลเมือง อย่างไรก็ตามจากนี้ไปการดำเนินการเรื่องนี้จะต้องย้ำการอบรมและพัฒนาครูเกี่ยวกับการสอนประวัติศาสตร์ให้มากขึ้น รวมถึงการบรรจุครูใหม่จะต้องมีครูเอกประวัติศาสตร์ โดยจะมอบก.ค.ศ.เกลี่ยอัตราโครงสร้างการบรรจุครูประวัติศาสตร์ด้วย