สธ. เผย คลัสเตอร์ “โอมิครอนกาฬสินธุ์”  เป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ แพร่กระจายหลายจังหวัดทั้งอีสานและภาคเหนือ

1087

สธ. เผย คลัสเตอร์ “โอมิครอนกาฬสินธุ์”  เป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ แพร่กระจายหลายจังหวัดทั้งอีสานและภาคเหนือ เหตุร้านอาหารแออัด-ระบายอากาศไม่ดี ไม่เข้มงวดการสวมหน้ากาก

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2564 ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด 19 ประเทศไทย ว่าสำหรับการสอบสวนคลัสเตอร์โอมิครอนที่สำคัญ 2 คลัสเตอร์ ได้แก่ คลัสเตอร์กาฬสินธุ์ ซึ่งแพร่กระจายหลายจังหวัดทั้งอีสานและภาคเหนือ มีผู้ติดเชื้อหลายร้อยคนถือเป็น “ซูเปอร์สเปรดเดอร์” จุดสำคัญคือ ร้านอาหารที่แปลงมาจากบาร์แต่ไม่ได้ปรับปรุงระบบระบายอากาศ ทำให้มีความเสี่ยงสูง พบว่าผู้ติดเชื้อไปร้านอาหาร 2 แห่ง คือร้าน BAR S ที่เจ้าของร้านกำกับติดตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคเข้มข้น โดยมีบริการ 10 โต๊ะ รองรับได้ 40 คน วันนั้นรับลูกค้าเพียง 10% และเปิดเพียง 3 ชั่วโมง จัดอุปกรณ์เฉพาะบุคคล ไม่มีส่งเสริมการขายแอลกอฮอล์ ไม่มีแสดงดนตรี พนักงานฉีดวัคซีนทุกคน ตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ คัดกรองอุณหภูมิผู้รับบริการ ช่วงที่ไม่รับประทานอาหารให้สวมหน้ากากตลอด ทำให้ไม่มีผู้ติดเชื้อเลย ขณะที่ร้าน BAR K ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากมี 15 โต๊ะ รองรับได้ 80 คน มีการเสริมโต๊ะ ระบบระบายอากาศไม่ดี ลูกค้าอยู่กันแออัด 90% และอยู่นานเพราะมีดนตรีและจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแอลกอฮอล์ พนักงานฉีดวัคซีนทุกคน แต่ไม่มีการตรวจ ATK ไม่คัดกรองไทยเซฟไทย และยังรับประทานอาหารร่วมกัน พนักงานป่วยไม่หยุดงาน ลูกค้ามีการคัดกรองอุณหภูมิ แต่ไม่คัดกรองความเสี่ยงและเว้นระยะห่างได้ไม่ดี ถือเป็นบทเรียนที่ร้านอาหารต้องปรับปรุง และเป็นข้อเตือนใจลูกค้าให้หลีกเลี่ยงร้านที่มีความเสี่ยงคือ แออัด ระบายอากาศไม่ดี ผู้คนไม่ใส่หน้ากาก เพื่อความปลอดภัย

นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า อีกคลัสเตอร์คือ นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน กทม. วันที่ 24 ธันวาคม พบผู้ติดเชื้อ 52 ราย มีประวัติรับประทานอาหาร ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารคล้ายผับ “ร้าน A” ช่วงวันที่ 8-14 ธันวาคม พบว่าไม่ได้ดำเนินการตามมาตรการ COVID Free Setting ลูกค้าอยู่ค่อนข้างแออัดและระบบระบายอากาศไม่ดี ตรวจสอบหาเชื้อในสิ่งแวดล้อมพบเชื้ออยู่ในเครื่องปรับอากาศ ดังนั้น ขอให้ใช้เวลารับประทานอาหารให้น้อยที่สุด ช่วงที่ไม่รับประทนอาหารให้สวมหน้ากาก ซึ่งหากทุกคนใส่หน้ากากจะลดเสี่ยงการติดเชื้อมากกว่า 90% ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากชนิดใด สิ่งสำคัญคือต้องใส่ให้ถูกต้อง

นพ.โอภาสกล่าวอีกว่า ส่วนการแจ้งเตือนภัยโควิดระดับ 3 ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการไปสถานที่เสี่ยง คือ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานที่ระบบปิดและแออัด กลุ่มเสี่ยง 608 ที่ยังรับวัคซีนไม่ครบไม่ควรไปร่วมกิจกรรมที่คนรวมกันจำนวนมาก หลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะ และงดเดินทางไปต่างประเทศส่วนคนทั่วไป ให้เดินทางเท่าที่จำเป็น โดยการเข้าประเทศจะเป็นระบบกักตัว ส่วนสายพันธุ์โอมิครอนข้อมูลทั่วโลกเห็นตรงกันว่าระบาดมากขึ้น แต่ความรุนแรงลดลง เนื่องจากเชื้อจะอยู่ในทางเดินหายใจส่วนบนมากกว่ากรณีจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นหรือไม่ ปัจจัยสำคัญคือเชื้อต้องมีความรุนแรงลดลง คนมีภูมิต้านทานมากขึ้นจากการฉีดวัคซีนหรือติดเชื้อมาก่อน ทำให้คนและเชื้ออยู่ร่วมกันได้