รพ.ราชเวชเชียงใหม่ แจงละเอียดยิบ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากระยองมาก่อน ศบค.ประกาศ จ.ระยองเป็นพื้นที่เสี่ยง มั่นใจการคัดกรองโรคมีคุณภาพมาตรฐาน

490
โรงพยาบาลราชเวช เชียงใหม่

รพ.ราชเวชเชียงใหม่ แจงละเอียดยิบ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากระยองมาก่อน ศบค.ประกาศ จ.ระยองเป็นพื้นที่เสี่ยง มั่นใจการคัดกรองโรคมีคุณภาพมาตรฐาน

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2563 นายหัสดิน โปรเทียรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชเวช เชียงใหม่ ทำหนังสือชี้แจงสื่อมวลชน เรื่อง ชี้แจงกรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของ จ.ระยอง ยืนยันเมื่อ 27 ธ.ค. 2563 ที่ได้เข้ารับการรักษาโรคความดันโลหิตสูงที่คลินิกประกันสังคม รพ.ราชเวช เมื่อ 21 ธันวาคม 2563 จริง

รพ.ราชเวช ได้รับรายงานจากทีมสอบสวนโรค สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2563 เวลา 17.45 น. ว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดระยอง และมีประวัติเข้ารับการรักษา โรคความดันโลหิตสูงที่คลินิกประกันสังคม รพ.ราชเวช เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2563 ในช่วงเวลา 09.00 – 11.30 น.

รพ.ราชเวช เชียงใหม่ ขอชี้แจงว่า ผู้ป่วยรายนี้ได้เข้ารับการรักษาที่ รพ.ราชเวช เชียงใหม่ในวันและเวลาดังกล่าวจริง ซึ่งในขณะนั้น จ.ระยองยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 และยังไม่ได้ประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยง (ศบค.ได้ประกาศให้ จ.ระยอง เป็นพื้นที่เสี่ยง เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2563) รพ.ราชเวช เชียงใหม่ มีระบบการคัดกรองที่ได้มาตรฐานและมุ่งเน้นความปลอดภัยสูงสุดให้แก่ผู้รับบริการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน ม.ค.2563 จนถึงปัจจุบัน โดยมีคลินิกคัดกรอง โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ (ARI Clinic) อยู่ด้านนอกอาคาร และมีนโยบายในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กำหนดให้ผู้รับบริการรวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติตนดังนี้ 1)ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าประตูอาคาร 2)สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่อยู่ในพื้นที่ของโรงพยาบาล 3)ใช้มาตรการการเว้นระยะห่างอย่างเคร่งครัด

ผู้ป่วยรายนี้ได้รับการคัดกรองตามระบบของโรงพยาบาล และจากการซักประวัติไม่พบอาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ไข้ ไอ หายใจหอบเหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส และไม่มีประวัติการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงตามประกาศของ ศบค. ณ ช่วงเวลานั้น จึงสามารถผ่านเข้าไปรับบริการที่คลินิกประกันสังคมได้

หลังจากได้รับข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2563 เวลา 17.45 น. ทางโรงพยาบาลได้ดำเนินการดังต่อไปนี้ 1)ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาที่ผู้ป่วยรายนี้เข้ารับบริการพบว่าผู้ป่วยรายนี้, ผู้รับบริการราย อื่น ๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทั้งหมด ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของโรงพยาบาลทุกประการ และผู้ป่วยรายนี้ได้อยู่บริเวณแผนกผู้ป่วยนอกประกันสังคม ชั้น 2 โดยการขึ้น – ลงทางบันได

2)ตั้งแต่เวลา 18.00 – 21.00 น.ได้ติดตามกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยซึ่งมีความเสี่ยงสูง ได้แก่ บุคคลในครอบครัวผู้ป่วย และผู้สัมผัสความเสี่ยงต่ำ ได้แก่ แพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา เภสัชกร และบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในขณะนั้น เพื่อเข้ารับการตรวจ RT-PCR for COVID-19 ทันที และทราบผลการตรวจทั้งหมดว่าเป็นลบ (ไม่พบสารพันธุกรรมโคโรน่าไวรัส) เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2563 เวลา 01.00 น. และ 3) เวลา 20.00 น. ปิดให้บริการคลินิกผู้ป่วยประกันสังคมทั้งหมด และทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์ในห้องตรวจทุกประเภท

เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้รับบริการ รพ.ราชเวช เชียงใหม่ จะคงมาตรฐานการคัดกรองผู้รับบริการทุกท่านที่เข้ามารับบริการที่ รพ.ราชเวช เชียงใหม่ อย่างต่อเนื่อง อนึ่งหากผู้รับบริการที่เข้ามารับบริการในวันที่ 21 ธ.ค. 2563 ช่วงเวลา 09.00-11.30 น. ณ แผนกผู้ป่วยนอกประกันสังคม ชั้น 2 ถ้าท่านมีอาการผิดปกติสามารถเข้ารับการตรวจ RT-PCR for COVID-19 ที่ รพ.ราชเวช เชียงใหม่ได้ทันที นายหัสดิน โปรเทียรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชเวช เชียงใหม่ ชี้แจงตามเอกสารดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ราชเวชเชียงใหม่ มีการตั้งจุดคัดกรอง ตรวจวัดไข้ด้วยเครื่องเทอร์โมสแกนตั้งแต่ด่านแรก ก่อนเข้าประตูภายในอาคาร หากพบมีไข้ก็จะทำการสอบประวัติว่ามีความเสี่ยงมาจากประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ จากนั้นก็จะคัดแยก ออกมาตรวจนอกอาคาร ตามกระบวนการเข้าห้องกักตัว มีเตียงนอน และตู้ตรวจเสมหะจมูกและคอ และนำตัวเข้าห้องความดันลบ(ฆ่าเชื้อ) เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะทราบผลภายใน 4 ชั่วโมง จากนั้นก็จะแจ้งทางสำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่ และโรงพยาบลนครพิงค์มารับตัวส่งต่อไปตามขั้นตอนของการกักตัวตามกระบวนการของ ศบค.ต่อไป

วันนี้ทางทีมแพทย์และพยาบาลของ รพ.ราชเวชเชียงใหม่ ก็ยังลงพื้นที่ตรวจคนหากลุ่มเสี่ยงผู้ติดเชื้อในเชียงใหม่ ตามที่กรมควบคุมแจ้งให้ลงพื้นที่ไปทำการตรวจพนักงานที่ทำงานในปั๊มน้ำมัน ปตท.แม่ริม ตั้งอยู่แยกไปปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ทั้งหมดมีพนักงานของ ปตท. รวมทั้งเจ้าของร้านค้า และลูกจ้างของร้านค้าต่างๆ จำนวนประมาณ 30 คน เข้ารับการตรวจโรคโควิด-19โดยใช้ตู้ตรวจโรคความดันลบที่มีคุณภาพคือฆ่าเชื้อโรคได้ในตู้ความดันลบดังกล่าว.
blank

blank

blank

blank

blank

blank

blank

blank

blank