อดีตคนไอทีวี พร้อมเป็นพยาน ให้ กกต.ไต่สวนปม พิธาถือหุ้นสื่อ ลั่น “อย่าสร้างตราบาปให้กับสื่อที่ถูกปิด”

2285

นายจตุรงค์ สุขเอียด อดีตประธานสหภาพแรงงานหัวหน้างานบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “จตุรงค์ สุขเอียด” พูดประเด็นเกี่ยวกับช่องไอทีวี ที่ถูกจอดำตั้งแต่ปี 2550 และมีหลักฐานการเลิกจ้าง โดยระบุข้อความทั้งหมดว่า

“เรียนประธานกกต.ผมนายจตุรงค์ สุขเอียด เป็นอดีตประธานสหภาพแรงงานหัวหน้างาน บ.ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เป็นพิธีกรรายการถอดรหัสและบรรณาธิการข่าวเฉพาะกิจ เป็นหน้าที่สุดท้ายในวันที่ไอทีวี ถูกสปน.สั่งยึดความถี่จนมีสภาพจอดำเมื่อปี2550

ก่อนเปลี่ยนผู้ผลิตใหม่ เป็นไทยพีบีเอสจนถึงปัจจุบัน ปี 2549 ผมเป็นตัวแทนพนักงานไอทีวีทุกคนไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราวการปิดไอทีวีจากมติครม.ปี 2549 ต่อมาศาลปกครองไต่สวนผมและคณะแล้วมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเป็นเวลา 1 ปี จากปี 2549 – 2550 จึงเปลี่ยนการออกอากาศในชื่อทีไอทีวี

แล้วเมื่อครบจึงให้ยกเลิกความคุ้มครองเท่ากับบริษัทไอทีวี ไม่มีคลื่นความถี่มาออกอากาศได้ทันที วันรุ่งขึ้นพวกพนักงานนับพันคน หลายพันชีวิตในครอบครัวลำบากมากครับ จากการตกงาน บริษัท ไอทีวี จึงกำหนดการชำระเงินเลิกจ้างตามกฎหมายแรงงาน พนักงานบางส่วนถูกถ่ายโอนไปสังกัดไทยพีบีเอส โดยนับอายุงานใหม่ เพราะไม่ใช่บริษัทเดียวกันและไม่ใช่ไอทีวีสาขา 2 แต่อย่างใด เพราะไม่เกี่ยวข้องใดๆต่อกัน พนักงานบางส่วนชราภาพไม่มีที่ทำงานต้องกลับบ้านเดิมจนวาระสุดท้าย บางส่วนได้งานทำในสื่ออื่นๆตามความรู้ความสามารถ

ส่วนผมทำงานกับช่อง3 ในข่าว 3 มิติ จนปัจจุบัน ผมพร้อมไปเป็นพยานให้คณะกรรมการไต่สวนให้กับท่านได้ว่าไอทีวียังคงทำหน้าที่สื่อสารกับประชาชนอยู่หรือไม่ การสิ้นสุดสถานะภาพสื่อสารต่อสาธารณในฐานะสื่อมวลชนยุติไปแล้วหรือไม่ พร้อมมีหลักฐานการเลิกจ้าง หนังสือเลิกจ้าง หนังสือรับเงินชดเชยการเลิกจ้าง หนังสือการไปรับเงินสงเคราะห์คนว่างงานจากกระทรวงแรงงาน และตลอด 16 ปีที่ผ่านมาในฐานะที่เป็นสื่อมวลชน ผมไม่เคยได้เห็นหรือรับชมข่าวใดๆจากการแพร่ภาพจากไอทีวีเลยในทุกช่องทาง

ผมจึงต้องการให้ท่านสอบถามข้อเท็จจริงในบทบาทหลัง ปี2550 ของไอทีวีให้ปรากฎก่อนจะมีคำวินิจฉัย ใน กรณีคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าไอทีวีเป็นสื่ออยู่ถึงตอนไหนกันแน่ๆ ผมไม่ใช่ติ่งคุณพิธา และพรรคการเมืองใดๆ ถ้าจะเป็นติ่งจากประวัติการทำงานผม คือมีติ่งเดียว คือติ่งความยุติธรรม

เว้นแต่ท่านสามารถพิสูจน์ให้ผมและเพื่อนๆได้ว่า 16ปี มานี้ คนไทยยังได้รับชมสื่อจากช่องไอทีวีอยู่โดยที่พวกผมไม่รู้มาก่อน ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ ก็ควรทำให้ทุกอย่างโปร่งใส และยุติธรรม อย่าเอาสื่อที่พวกผมรัก เคยเอาชีวิตไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาเป็นแพะทางการเมือง อย่าสร้างตราบาปให้กับสื่อที่ถูกปิดไปอีกเลยครับ ถ้าท่านต้องการไต่สวนผมผมพร้อม จะไป แต่ขอให้แจ้งล่วงหน้านิดหน่อยเพราะส่วนใหญ่ผมอยู่แต่ในสวนของผมครับ”