(มีคลิป Video) แม่ค้าออนไลน์ตกท่อร้องสื่อ เทศบาลยื้อให้การช่วยเหลือเยียวยา ผ่านไปเกือบ 1 เดือน เรื่องไม่คืบหน้า เจ้าตัววิ่งเต้นเรื่องทุกทาง วอนขอความเป็นธรรม
วันที่ 16 มี.ค. 66 รายงานข่าวแจ้งว่า สาววัย 36 ปี นำเอกสารหลักฐานโร่เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังประสบอุบัติเหตุตกท่อของเทศบาลนครเชียงใหม่ จนได้รับบาดเจ็บที่ขา ไม่สามารถทำการทำงานได้ เบื้องต้นนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝากซองเงินพร้อมกระเช้าช่วยเหลือหลังเกิดเหตุ 2 วัน จำนวน 3,000 บาท ขณะที่ผู้บาดเจ็บติดต่อเจ้าหน้าที่รับผิดชอบเพื่อขอช่วยเหลือค่าเสียหายจากหลายแสนบาท เจ้าหน้าที่อ้างว่าตามระบบราชการช่วยได้ไม่เกิน 20,000 บาท ต่อเงินจำนวนดังกล่าวยังไม่มีการจ่ายให้ และยื้อกันไปมาโดยอ้างว่าต้องรอผู้บริการกลับมาจากการดูงานก่อน ทั้งที่เรื่องผ่านไปนานนับครึ่งเดือนกว่า ต้องเดินกะเผลกไปร้องศูนย์ดำรงธรรม ร้องสายด่วนสำนักนายกฯ ยันหากไม่ได้รับความเป็นธรรมจะฟ้องศาลปกครองต่อไป
โดย นางสาวธันยรัตน์ สุวรรณพินิจ อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดลำปาง ที่มาอาศัยที่จังหวัดเชียงใหม่ เข้าร้องต่อสื่อมวลชน บอกเล่ากับทางผู้สื่อข่าวว่า เหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. ของวันที่ 22 ก.พ.66 ที่ผ่านมา ได้ประสบอุบัติเหตุตกท่อระบายน้ำ ริมถนนทางเข้าโรงพยาบาลค่ายกาวิละ ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาขาวตั้งแต่หัวเข่าจนถึงน่อง จนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์ เชียงใหม่ แพทย์บอกว่าโชคดีที่กระดูกไม่หัก แต่เอ็นหัวเข่าเกือบขาด โดยเธอต้องพักรักษาตัวต่อที่บ้านกว่า 10 วัน และต้องใส่แพมเพิร์สนอนติดเตียงเพราะเคลื่อนไหวไม่สะดวก แต่หลังจากเกิดเหตุ 2 วัน ได้มี นางสุภารัตน์ อรุณบรรเจิดกุล รองปลัดเทศบาลนครเชียงใหม่ และเลขาฯ เดินทางเข้ามาเยี่ยมพร้อมนำซองเงินช่วยเหลือ จำนวน 3,000 บาท จากนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ และกระเช้าเข้าเยี่ยม เป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น
จากนั้นก็เงียบหายไปจนเธอต้องโทรศัพท์ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยได้พูดคุยกับทาง นายวิสาขะ ปัญญาช่วย ผู้อำนวยการส่วนช่างสุขาภิบาล สำนักการช่าง เพื่อเจรจาขอความช่วยเหลือหลายครั้ง ตั้งแต่การเรียกค่าเสียหายทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียเวลาทำงาน ค่าเดินทางไปรักษาลำปาง ฯลฯ จำนวน 500,000 บาท ต่อมาทาง ผอ.คนนี้บอกว่าตามระบบราชการช่วยเหลือได้ไม่เกิน 20,000 บาท เบื้องต้นเธอจำยอมตกลง เพื่อให้ได้เงินมาเป็นค่าเดินทางเพื่อไปรักษาตัว แต่ปรากฏว่าวันเวลาล่วงเลยไปนานนับครึ่งเดือนกว่ายังไม่มีข้อสรุปในการช่วยเหลือในจำนวนเงินดังกล่าว เนื่องจากทั้งรองปลัดและ ผอ.พูดไม่ตรงกันและบ่ายเบี่ยงมาอย่างต่อเนื่อง จนบัดนี้ก็ยังไม่มีการช่วยเหลือแต่อย่างใด
นางสาวธันยรัตน์ บอกว่า วันเกิดเหตุเธอต้องการไปหาเพื่อนย่านค่ายกาวิละ ได้นั่งรถแกรบคาร์ให้ไปส่ง เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุได้ก้าวลงจากรถและไปเหยียบฝาท่อระบายน้ำบริเวณดังกล่าวและขาได้หลุดลงไปในท่อไม่สามารถขึ้นมาได้ ขณะเดียวกันมีแพทย์ รพ.ค่ายกาวิละ ที่เดินทางซื้อกาแฟใกล้เข้ามาให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งประสานทั้งทหารเสนารักษ์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และตำรวจมาที่เกิดเหตุ และช่วยกันใช้เครื่องมือช่วยเหลือใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงนำขาขวาออกมาได้และนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพิงค์ เพื่อใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ในกรณีฉุกเฉินซึ่งได้สิทธิ์เพียงปีละครั้ง แต่ตัวเธอมีสิทธิ์บัตรทองอยู่ที่บ้านเกิดจังหวัดลำปาง ซึ่งหลังจากนั้นต้องเดินทางไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลในลำปางอย่างต่อเนื่อง ต้องมีทั้งค่าใช้จ่ายในการเดินทาง น้องชายต้องลางานมาส่งไปรักษาและถูกหักเงินค่าแรงสองเท่าอีก เธอต้องเสียเวลาทำมาหากินเพราะเป็นแม่ค้าออนไลน์ สูญเสียรายได้และยังต้องเสียเงินในการเดินทางไปรักษาจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นโรคซึมเศร้า แต่ก็พยายามจะติดต่อเจ้าหน้าที่เทศบาลต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบในเรื่องการให้ความช่วยเหลือ
นางสาวธันยรัตน์ บอกอีกว่า ทุกวันนี้มีแต่รายจ่ายไม่มีรายได้ แม้แต่รถจักรยานยนต์ของเธอก็ยังไม่มีเงินจ่ายค่างวด จนต้องถูกไฟแนนซ์ยึดไปชั่วคราว ที่ผ่านมาไปร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ สายด่วน 1111 สำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งรับเรื่องไปแล้วแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้ตนปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายแล้ว เห็นว่าหากกรณีนี้เธอไม่ได้รับความเป็นธรรม จะเดินหน้าฟ้องร้อง