“ครูอิมมี่” ครูสอนดำน้ำฟรีไดฟ์ชื่อดัง นำหลักฐานเข้าพบตำรวจช้างเผือก ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องพนันออนไลน์ แจงพื้นที่โรงเรียนแบ่งเช่าแยกคนละส่วนกัน
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 ม.ค. 64 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก จ.เชียงใหม่ น.ส.อุษณี มณีชัย หรือ “ครูอิมมี่” อายุ 28 ปี ครูสอนดำน้ำฟรีไดฟ์ชื่อดัง ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก ภายหลังจากที่วานนี้ได้เข้าแจ้งความกับทาง ร.ต.ท.ภาณุพงศ์ สมสัก พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ใจ จากการที่ทางเจ้าตัวได้รับผลกระทบและความเสื่อมเสียชื่อเสียงกรณีเหตุการณ์ข่าวที่ก่อนหน้าช่วงเย็นวันที่ของวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นจับกุมกลุ่มขบวนการพนันออนไลน์รายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่บริเวณภายในโครงการ 147 อเวนิวเจ็ดยอด ถ.เจ็ดยอด-ช่างเคี่ยน อ.เมืองเชียงใหม่ โดยสถานที่ดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น แต่มีการนำเสนอข้อมูลไปว่าที่บริเวณดังกล่าวมีการเปิดเป็นโรงเรียนสอนดำน้ำบังหน้า และปรากฏบริเวณด้านหน้าทางเข้าตัวอาคารดังกล่าวมีชื่อของโรงเรียนตัวเองว่า “อิมมี่ ฟรีไดฟ์” สอนดำน้ำ ฟรีไดฟ์ By ครูอิมมี่ จนทำให้เกิดการเข้าใจผิด และส่งผลกระทบกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภายในวงการภายหลังปรากฏข่าวออกไป ในขณะที่เจ้าตัวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
โดยหลังการเข้าพบกับทางเจ้าหน้าที่ตรวจแล้ว ทางด้าน น.ส.อุษณี มณีชัย หรือ “ครูอิมมี่” ได้เปิดเผยกับทางผู้สื่อข่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ตนได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันกับทางร้อยเวรช่วงเย็นวานนี้ (26 ม.ค.64) ไว้เป็นหลักฐานเพื่อยืนยันว่าทางโรงเรียนของตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับกรณีที่เกิดขึ้น โดยที่บริเวณโรงเรียนที่ตนเปิดสอนนั้นได้มีการแยกพื้นที่อย่างชัดเจนที่บริเวณชั้นล่าง ส่วนบริเวณชั้นบน ตนก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด โดยคนที่มาเช่าพื้นที่นั้นก็ไม่ได้รู้จักหรือสนิทกัน เพราะเป็นคนรู้จักกับเพื่อนอีกที และตนก็ไม่อยากไปพาดพิงถึงบุคคลดังกล่าว และให้เป็นในเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการ
ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ผู้ที่ใช้สถานที่ดังกล่าว ซึ่งปรากฏตามข่าวว่ามีการเปิดพื้นที่ทำธุรกิจพนันออนไลน์นั้น ก็ไม่ได้มีการแจ้งกับตนแต่อย่างใดและบอกกับตนเพียงว่าต้องการใช้พื้นที่ชั้น 2-3 ขึ้นไป และไม่ได้ต้องการหรือใช้พื้นที่หน้าร้านของตน อีกทั้งแจ้งกับทางตนว่าตนต้องการใช้พื้นที่หน้าร้านหรือไม่ ตนจึงตอบตกลงและมีการหารเงินค่าเช่าพื้นที่อาคารดังกล่าวด้วยกัน และช่วงวันเกิดเหตุที่ทางเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบตนก็ไม่ได้อยู่ เนื่องจากทางโรงเรียนได้มีการปิดสอนมาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากตนมีปัญหาด้านสุขภาพ รวมไปถึงผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดด้วย จึงทำให้ตนแทบจะไม่ได้เปิดสอน โดยบุคคลที่มีการเช่าพื้นที่แยกออกมาจากพื้นที่ของตนนั้นก็ได้มาเช่าได้ประมาณ 2-3 เดือน
ดังนั้นจากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ตนจึงอยากออกมายืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และแทบจะไม่เจอหน้าเจ้าของที่มาเช่าพื้นที่อีกคนเลย ถึงแม้จะเจอกันก็ไม่เคยพูดจาด้วย และเมื่อครบเวลาจ่ายกำหนดค่าเช่าก็ต่างคนต่างชำระเงินตามที่ตกลงกันไว้ นอกจากนี้ในส่วนของตัวอาคารทางตนก็ได้มีการติดตั้งมิเตอร์น้ำ และมิเตอร์ไฟแยกออกมาต่างหากเพื่อจะได้ไม่เกี่ยวข้องกัน
น.ส.อุษณี หรือ “ครูอิมมี่” กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ สร้างความเสียหายให้กับตนค่อนข้างมาก ในทางด้านชื่อเสียง ซึ่งหลังมีข่าวปรากฏออกมาก็มีคนมาคอมเมนต์ต่อว่าตนในด้านลบโดยเฉพาะในวงการดำน้ำที่มีคนรู้จักค่อนข้างมาก โดยทุกคนก็กล่าวหาว่าตนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งทางตนก็อยากกราบขออภัยพี่ๆ ทุกคนในวงการ และยืนยันอีกครั้งว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องจริงๆ เนื่องจากตนเปิดช็อปเพื่อเป็นสถานที่สำหรับการสอนดำน้ำ เป็นโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนมาทำเวิร์กช็อป และเรียนเรื่องทฤษฎีในสถานที่ดังกล่าว หลังจากนั้นตนจึงจะพานักเรียนออกไปสอนข้างนอกในพื้นที่เป็นสระน้ำพื้นที่เกิน 3 เมตรขึ้นไป ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ก็เปิดมาตั้งแต่ประมาณเดือนตุลาคม ส่วนนักเรียนที่จะเข้ามาเรียนก็จะมีการนัดหมายกันทางออนไลน์ก่อน เนื่องจากตนไม่ได้มีพนักงานและทำเองทุกอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่นักเรียนที่มาเรียนก็จะโทรมาสอบถามก่อนนัดเจอกันเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากที่ทาง น.ส.อุษณี หรือ “ครูอิมมี่” ได้มีการเดินทางเข้าพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งชี้แจงให้ทางผู้สื่อข่าวแล้วนั้น ได้มีการเปิดเฟซบุ๊ก ไลฟ์สดเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว “Kunlarut Maneechai” ซึ่งก็มีผู้พบเห็นต่างเข้ามาให้กำลังใจเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น และตนก็ได้ยืนยันความบริสุทธิ์ใจเพื่อให้เกิดความเข้าใจกันกับทุกฝ่ายอีกด้วย