กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลเลิดสิน เตือนโรคกระดูกข้อสะโพกตายจ ากการขาดเลือดไปเลี้ยงกระดู กทำให้เกิดอาการปวด และสร้างปัญหาต่อการเดิน ควรใส่ใจก่อนจะสายเกินไป
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีการการแพทย์และโฆษ กกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคกระดูกข้อสะโพกตาย พบได้ในช่วงอายุ 30-40 ปี เกิดจากเส้นเลือดที่มาเลี้ย งหัวกระดูกข้อสะโพกเกิดการอ ุดตัน หรืออาจเกิดจากอุบัติเหตุ ทำให้เลือดไม่สามารถนำสารอา หารมาหล่อเลี้ยงหัวกระดูกข้ อสะโพกได้จนทำให้เซลล์หัวกร ะดูกข้อสะโพกค่อยๆตาย และผิวข้อสะโพกเสีย หลังจากนั้นหัวกระดูกข้อสะโ พกจะไม่สามารถรับน้ำหนักร่า งกายได้จึงเกิดการยุบตัวของ หัวกระดูก สร้างความเจ็บปวดต่อผู้ป่วย เป็นอย่างมาก และทำให้ไม่สามารถเดินได้ตา มปกติ นอกจากนี้ยังเกิดจากอุบัติเ หตุโดยตรงต่อผิวข้อ ที่พบบ่อยคือ พบการแตกหักของกระดูกบริเวณ ข้อสะโพก ส่งผลทำให้เส้นเลือดที่มาเล ี้ยงถูกทำลาย เส้นเลือดที่ฝังตัวอยู่ฉีกข าด จนทำให้เกิดการตายของหัวกระ ดูกต้นขา ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ เช่น ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ทานยาสเตียรอยด์จำนวนมากเป็ นประจำ มีไขมันในเลือดสูง และการได้รับเคมีบำบัด เป็นต้น
นายแพทย์ศักรินทร์ วงศ์เลิศศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิ น กล่าวว่า ในระยะแรกที่อาการไม่รุนแรง ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดที่ขาหนี บหรือข้อสะโพก และเวลาเดินจะมีอาการปวดมาก ขึ้น ต่อมาจะยืนเดินลำบากมาก และรู้สึกปวดมากขึ้นเมื่อขย ับข้อสะโพก การตรวจวินิจฉัยด้วยวิธี x-ray และ MRI โดย x-ray จะเห็นถึงความแข็งแรงของโคร งสร้างและหัวกระดูกสะโพกทรุ ดตัวมากน้อยแค่ไหน ส่วน MRI สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงข องโครงสร้างกระดูกในช่วงแรก ซึ่งอาจไม่เห็นในภาพถ่าย x-ray และ MRI ยังช่วยประเมินได้ว่าโรคนี้ ส่งผลกระทบต่อกระดูกมากน้อย แค่ไหน นอกจากนี้ยังตรวจพบภาวะกระด ูกข้อสะโพกตายได้ตั้งแต่เริ ่มต้น สำหรับการรักษาโรคนี้โดยการ ทำกายภาพบำบัด เป็นเพียงประคับประคองตามอา การเท่านั้น เมื่อถึงจุดหนึ่งผู้ป่วยต้อ งเข้ารับการผ่าตัดข้อสะโพก แต่จะผ่าตัดเล็กหรือผ่าตัดใ หญ่ขึ้นอยู่กับการตรวจพบเร็ วแค่ไหน ดังนั้นถ้ามีอาการที่สงสัยห รือทำให้เกิดการกังวลอย่านิ ่งนอนใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์และรักษาท ันที



































