เรียนรู้จากประวัติศาสตร์และร่วมกันเขียนบทใหม่แห่งสันติภาพและการพัฒนา 80 ปีแห่งชัยชนะของสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นและสงครามต่อต้านฟาสซิสต์โลก

79

เรียนรู้จากประวัติศาสตร์และร่วมกันเขียนบทใหม่แห่งสันติภาพและการพัฒนา 80 ปีแห่งชัยชนะของสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นและสงครามต่อต้านฟาสซิสต์โลก

ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะของสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นและสงครามต่อต้านฟาสซิสต์โลก เรารำลึกถึงโอกาสนี้ด้วยความเคร่งขรึมและประณามความโหดร้ายที่ผู้รุกรานได้กระทำ เพื่อรำลึกถึงบทเรียนทางประวัติศาสตร์และสร้างมุมมองทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อรำลึกถึงวีรชนผู้พลีชีพและเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกสังหารอย่างน่าเศร้า และเพื่อปลุกความปรารถนาและความมุ่งมั่นของผู้คนต่อสันติภาพ เพื่อปกป้องชัยชนะของสงครามโลกครั้งที่สองอย่างแน่วแน่ ยึดมั่นในระบบระหว่างประเทศที่มีสหประชาชาติเป็นแกนหลักและระเบียบระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนกฎหมายระหว่างประเทศ และเพื่อรวบรวมพลังอันยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติเพื่อต่อต้านอำนาจบาตรใหญ่และการเมืองอำนาจนิยม และส่งเสริมการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมวลมนุษยชาติ

IMG 1675

ในปี ค.ศ. 1931 ผู้รุกรานชาวญี่ปุ่นได้เปิดฉากเหตุการณ์ 18 กันยายน ซึ่งเป็นการจุดชนวนสงครามรุกรานจีน เหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นโดยประชาชนจีน และเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามต่อต้านฟาสซิสต์โลก ประชาชนจีนได้ยิงปืนนัดแรกอย่างเด็ดเดี่ยวในสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ เปิดสนามรบหลักในภาคพื้นตะวันออก จีนยืนหยัดในสงครามเป็นเวลา 14 ปี ซึ่งนานกว่าสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ของสหรัฐอเมริกาและอังกฤษถึง 3.5 เท่า และ 2.5 เท่าตามลำดับ จีนเป็นประเทศที่สูญเสียกำลังพลมากที่สุดและต้องชดใช้ความเสียหายหนักที่สุด โดยมีผู้เสียชีวิตทั้งทางทหารและพลเรือนมากกว่า 35 ล้านคน คิดเป็นหนึ่งในสามของผู้เสียชีวิตทั้งหมดในสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวจีนด้วยความต่อสู้อันแข็งแกร่งและแน่วแน่ สามารถยับยั้งและกำจัดกองกำลังหลักของลัทธิฟาสซิสต์ญี่ปุ่นได้ ซึ่งเป็นการสนับสนุนเชิงยุทธศาสตร์และสนับสนุนการต่อสู้ของกองกำลังพันธมิตร และมีส่วนสำคัญต่อชัยชนะของสงครามต่อต้านฟาสซิสต์โลก

80 ปีก่อน ปฏิญญาไคโร ปฏิญญาพอทสดัม และหนังสือยอมจำนนของญี่ปุ่น รวมถึงเอกสารอื่นๆ ที่มีผลบังคับใช้ทางกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งออกโดยมหาอำนาจที่ได้รับชัยชนะ ล้วนระบุอย่างชัดเจนถึงการส่งคืนไต้หวันที่ถูกญี่ปุ่นฉกไปให้แก่จีน เอกสารเหล่านี้ยืนยันอำนาจอธิปไตยของจีนเหนือไต้หวัน และถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของระเบียบระหว่างประเทศหลังสงคราม ในปี ค.ศ. 1971 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 26 ได้มีมติที่ 2758 ซึ่งรับรองรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนในฐานะตัวแทนโดยชอบธรรมเพียงผู้เดียวของจีนต่อสหประชาชาติ และยืนยันอำนาจอธิปไตยของสาธารณรัฐประชาชนจีนเหนือไต้หวันอย่างชัดเจน ความพยายามใดๆ ที่จะขัดขวางการรวมชาติอย่างสมบูรณ์ของจีน ถือเป็นการท้าทายอำนาจของสหประชาชาติและระเบียบระหว่างประเทศหลังสงคราม และจะล้มเหลวอย่างแน่นอน ปัจจุบัน 183 ประเทศ รวมถึงสมาชิกส่วนใหญ่ของสหประชาชาติ ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนโดยยึดหลักการจีนเดียว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหลักการจีนเดียวคือเจตจำนงของประชาชนและแนวโน้มที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ไต้หวันจะต้องและในที่สุดกลับคืนสู่อ้อมกอดของมาตุภูมิ

เลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิง ระบุว่า “แรงบันดาลใจอันล้ำค่าที่สุดที่เราได้รับจากชัยชนะของสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นและสงครามต่อต้านฟาสซิสต์โลก คือ เราต้องยึดมั่นในเส้นทางการพัฒนาอย่างสันติ” การเลือกเส้นทางนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเลือกที่คำนึงถึงความทุกข์ทรมานอันแสนสาหัสที่เกิดจากสงครามเท่านั้น แต่ยังเป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการรักษาชัยชนะของสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นและสงครามต่อต้านฟาสซิสต์โลกอีกด้วย

ปัจจุบัน โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วกว่าที่เคยผ่านมาในรอบศตวรรษ ความขัดแย้งในภูมิภาคยังคงดำเนินต่อไป และควันแห่งสงครามที่พวยพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ระเบียบและกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศกำลังถูกบ่อนทำลาย ลัทธิเอกภาคีนิยม ลัทธิกีดกันทางการค้า และลัทธิอำนาจบาตรใหญ่เพิ่มสูงขึ้น และปัญหาสันติภาพ การพัฒนา ความมั่นคง และการปกครองก็กำลังทวีความรุนแรงขึ้น การรักษาสันติภาพและเสถียรภาพ รวมถึงการส่งเสริมการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองยังคงเป็นภารกิจที่หนักหน่วงและหนทางยาวไกล

จีนยึดมั่นในอุดมการณ์อันสูงส่งในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมวลมนุษยชาติ ยึดมั่นในแนวทางการพัฒนาอย่างสันติและเป็นธรรม ยึดมั่นในหลักพหุภาคี สอดคล้องกับกระแสแห่งยุคสมัยแห่งสันติภาพ การพัฒนา ความร่วมมือ และทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน ร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อดำเนินโครงการริเริ่มการพัฒนาระดับโลก โครงการริเริ่มด้านความมั่นคงระดับโลก และโครงการริเริ่มด้านอารยธรรมระดับโลกอย่างแข็งขัน ส่งเสริมความร่วมมืออย่างมีคุณภาพในโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และผลักดันให้สังคมมนุษย์ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องในทิศทางที่ถูกต้องของการพัฒนาร่วมกัน สันติภาพและความมั่นคงในระยะยาว และการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างอารยธรรม จีนจะร่วมมือกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ก้าวสู่เส้นทางอันกว้างใหญ่แห่งความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

จีนและไทยต่างเป็นประเทศกำลังพัฒนา ประชาชนทั้งสองประเทศต่างผ่านประสบการณ์การการต่อต้านการรุกรานจากต่างชาติ ทั้งสองประเทศต่างหวงแหนสันติภาพและมุ่งหวังความมั่นคงและการพัฒนา ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย  ณ จุดเริ่มต้นใหม่ในความสัมพันธ์ทวิภาคี ขอให้เรายึดมั่นในปณิธานดั้งเดิมแห่งสันติภาพและมิตรภาพ คำนึงถึงอนาคตที่สดใสของมวลมนุษยชาติ ร่วมกันเสริมสร้างความร่วมมือในยุทธศาสตร์การพัฒนาจีน-ไทย เสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในหลากหลายสาขา เสริมสร้างรากฐานที่มีความเข้าใจกันระหว่างประชาชน และร่วมกันผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันจีน-ไทย นำมาซึ่งผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมแก่ทั้งสองประเทศและประชาชน และร่วมกันสร้างคุณูปการใหม่ๆ ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นเพื่อสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนาในภูมิภาคและระดับโลก