27 พ.ค. 68 – นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนท โดยมีนายศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ ผู้บริหารกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวยการ ศาลาว่าการจังหวัดเชียงใหม่ และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการประชุมติดตามสถานการณ์ในวันนี้ ทำให้เห็นว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเชียงใหม่ได้เตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมเป็นอย่างดี มีการติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด มีการตรวจสอบปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและทำการระบายน้ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและสามารถบริหารจัดการได้ในกรณีที่เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ รวมไปถึงการเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ตลอดจนสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันอ่างเก็บน้ำทุกอ่างมีปริมาณน้ำอยู่ในระดับที่เหมาะสม จะมีเพียง 3 อ่างเก็บน้ำที่ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นหลังจากมีฝนตกในพื้นที่ ซึ่งทางชลประทานได้ทำการระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำเรียบร้อยแล้ว
“เชียงใหม่มีความเสี่ยงเกิดน้ำล้นตลิ่งในส่วนของน้ำปิง แม่น้ำกก และลำน้ำสาขา มีความเสี่ยงน้ำท่วมขังรอการระบาย และน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือเหตุอุทกภัยล่วงหน้า โดยเน้นไปที่การขุดลอกตะกอนจากแม่น้ำปิง การขุดลอกท่อระบายน้ำ การกำจัดสิ่งของทางน้ำ เพื่อเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมขังและน้ำท่วมรอระบาย จุดนี้ถือเป็นเรื่องดีที่จังหวัดเชียงใหม่ได้บูรณาการทุกภาคส่วนทำงานเชิงรุกเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ในส่วนของการแจ้งเตือนภัย จังหวัดเชียงใหม่ก็มีการแจ้งเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน มีการรับข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมถึงข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และมีระเบียบปฏิบัติประจำ (SOP) ในการทำงานเพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์ล่วงหน้า อพยพไปยังพื้นที่ และปฏิบัติตนได้อย่างปลอดภัยเมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นว่าจังหวัดเชียงใหม่มีความพร้อม ตื่นตัว และตั้งรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ“ นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าว
นายภาสกร กล่าวเพิ่มเติมว่า นางสาวแพทองธารชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใยในความปลอดภัยของประชาชน และได้สั่งการให้ ปภ. ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยเร็ว ซึ่ง ปภ. ได้ส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการมาสนับสนุนการปฎิบัติการในพื้นที่ที่เกิดภัย สำหรับในพื้นที่เชียงใหม่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 10 ลำปาง ได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัย ไม่ว่าจะเป็น รถสูบน้ำ เครื่องสูบน้ำ รถผลิตน้ำดื่มสะอาด ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่เกิดภัย รวมถึงมีการส่งทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัยจากภาคกลางมาประจำในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อให้สามารถออกปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนได้ทันที อย่างไรก็ตาม ขอให้จังหวัดติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง หากเครื่องจักรกลสาธารณภัยของจังหวัดไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน หรือต้องการวัสดุอุปกรณ์อื่นใดเพิ่มเติม ขอให้ประสานมายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ทันที เพราะตอนนี้ ทีม ปภ. เราอยู่ในพื้นที่ และพร้อมออกปฏิบัติงานสนับสนุนจังหวัดได้ในทันที
“กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแจ้งเตือนภัย ขอให้จังหวัดเปิด War room และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องรอให้เกิดสถานการณ์ภัยขึ้นในพื้นที่ เพื่อประสานการปฎิบัติงานทั้งในส่วนของการเฝ้าระวังและแจ้งเตือน รวมถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย นอกจากนี้ ขอให้จังหวัดให้ความสำคัญกับการสื่อสารข้อมูลให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้องถึงสถานการณ์ภัยที่เกิดขึ้น รวมถึงคำแนะนำในการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัย เพื่อป้องกันข่าวลวงข่าวปลอม (Fake news) ที่ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเกิดความเข้าใจผิดและตื่นตระหนกจาก Fake news ที่ได้รับ“ นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าวปิดท้าย