สธ. เตือนเดินลุยน้ำ ย่ำโคลนเท้าเปล่า ระวัง! “โรคไข้ฉี่หนู” แนะสวมรองเท้าบูท และทำความสะอาดร่างกายทันทีหลังลุยน้ำ

5

27 พ.ค. 68 – ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนฝนตกหนักในหลายพื้นที่ และมีน้ำท่วมขัง อาจมีเชื้อโรคไข้ฉี่หนูปนเปื้อน หากประชาชนเดินลุยน้ำย่ำโคลนด้วยเท้าเปล่า อาจทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้

โรคไข้ฉี่หนู เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเลปโตสไปราที่ปนออกมากับปัสสาวะของสัตว์นำโรค เช่น หนู สุกร โค กระบือ สุนัข เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน น้ำฝนจะชะล้างเชื้อจากปัสสาวะของสัตว์ที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม ไหลลงสู่แหล่งน้ำ หรือแอ่งน้ำขัง ดินโคลนที่ชื้นแฉะ เชื้อนี้สามารถไชเข้าทางผิวหนังที่อ่อนนุ่ม มีบาดแผล หรือผ่านทางเยื่อบุตา จมูก และปาก จากการที่ประชาชนลงแช่น้ำ ลุยน้ำ ย่ำดินโคลน โดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน หลังจากติดเชื้อประมาณ 1-2 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะเริ่มมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว ปวดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะที่น่องหรือโคนขา ต่อมาอาจมีตาแดง ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะออกน้อย ไอเป็นเลือด จนเสียชีวิตในที่สุด หากไม่ได้รับการรักษาหรือเข้ารับการรักษาล่าช้า

คำแนะนำสำหรับประชาชนในการป้องกันโรคไข้ฉี่หนู มีดังนี้
1) หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ ย่ำโคลน หรือแช่น้ำที่ท่วมขังนานๆ เพราะอาจได้รับเชื้อไข้ฉี่หนูได้
2) หากจำเป็นควรสวมรองเท้าบูท ถุงมือยาง เมื่อต้องสัมผัสน้ำที่ท่วมขัง ดินที่ชื้นแฉะ หรือทำความสะอาดบ้านเรือนหลังน้ำท่วม
3) หลังลุยน้ำ ย่ำโคลน หรือแช่น้ำท่วมขัง ให้รีบทำความสะอาดร่างกายด้วยสบู่และน้ำสะอาดทันที
4) หากมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว หรือปวดกล้ามเนื้อ หลังลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำท่วมขัง 1-2 สัปดาห์ ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดและแจ้งประวัติเสี่ยงให้แพทย์ทราบ เพื่อการตรวจรักษาที่รวดเร็วซึ่งช่วยลดอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ หากเข้ารับ การรักษาภายใน 1-2 วัน หลังเริ่มป่วย