16 พ.ค. 68 – นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดจันทบุรี ในวันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2568 เพื่อรับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรในจังหวัดทางภาคตะวันออก รวมทั้งให้ นโยบายกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการสนับสนุนอย่างจริงจัง ซึ่งภาคตะวันออกเป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่สำคัญของไทย โดยมีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย
โดยช่วงเช้า เวลาประมาณ 09.15 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ออกเดินทางจากกองบินตำรวจ ท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ไปยังสนามบินอำเภอท่าใหม่ (ทหารเรือที่ 31 ท่าใหม่) จังหวัดจันทบุรี จากนั้นเดินทางต่อไปยังสวนรักตะวัน เพื่อรับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออกและแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ และเข้าร่วม Live ขายทุเรียนกับ Young Smart Farmer ต่อจากนั้น จะเยี่ยมชมบูธร้านอาหารที่ได้รับเครื่องหมาย Thai SELECT พร้อมร่วมรณรงค์ เชิญชวนการรับประทานผลไม้ไทยตามฤดูกาล โดยจะรับฟังการนำเสนอข้อมูลเรื่องร้านอาหาร Thai SELECT จากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และรับฟังข้อมูลเรื่องรณรงค์การสนับสนุน การทานผลไม้ในฤดูกาล จากอธิบดีกรมการค้าภายใน
นายจิรายุ กล่าวต่อไป ว่าในช่วงบ่าย เวลาประมาณ 13.30 น. นายกรัฐมนตรีจะเข้าเยี่ยมชมขั้นตอนการส่งออกทุเรียนไปยังตลาดต่างประเทศ ณ บริษัท ดรากอน เฟรช ฟรุท จำกัด อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี โดยชมการคัดแยกมังคุดและการแพคกิ้งเพื่อการส่งออก บูธกิจกรรมแปรรูปผลไม้ รวมถึงโมเดลความร่วมมือ ในการนำเมนูผลไม้ขึ้นไปเสริฟบนเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชีย พร้อมกันนี้ จะพบปะพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ พร้อมรับฟังแนวทางการรับซื้อผลไม้จากผู้ประกอบการ และผู้ส่งออกจากภาคส่วนต่าง ๆ และชมกระบวนการคัดแยกและบรรจุผลไม้สด (ทุเรียน) เพื่อการส่งออก ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ จะเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในช่วงเย็นวันเดียวกัน
สำหรับมูลค่าการส่งออก สินค้าผลไม้ของไทยอยู่ในอันดับต้นๆของโลก โดยทุเรียนในปี 2567 ที่ผ่านมา มีมูลค่าการส่งออกรวม 4,404.9 ล้านเหรียญสหรัฐ (157,506 ล้านบาท)โดยแบ่งเป็น (1) ทุเรียนสด 3,755.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (134,852 ล้านบาท) และ (2) ทุเรียนแช่เย็นจนแข็ง 649.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (22,654 ล้านบาท) และล่าสุดปี 2568 ช่วง 2 เดือนแรก (มกราคม – กุมภาพันธ์) ไทยมีมูลค่าส่งออกรวม 128.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (4,374 ล้านบาท) แบ่งเป็น (1) ทุเรียนสด 85.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (2,918 ล้านบาท) และ (2) ทุเรียนแช่เย็นจนแข็ง 42.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,456 ล้านบาท) ทุเรียนเป็นสินค้าที่ไทยพึ่งพาตลาดส่งออกถึง 75% ขณะที่บริโภคภายในประเทศเพียง 25% ของปริมาณผลผลิตทั้งหมด
“การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีเพื่อพบปะเกษตรกรและผู้ประกอบการผลไม้ พร้อมรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการตลาดและราคาผลผลิต โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลทุเรียน ซึ่งเป็นผลไม้ส่งออกที่สำคัญ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการส่งออกผลไม้ชนิดอื่นไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นมังคุด เงาะ ลองกอง ตลอดจนผลไม้เมืองร้อนของจังหวัดจันทบุรี และภาคตะวันออก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมภาพลักษณ์ของผลไม้ไทยให้เป็นที่จดจำ โดยการหาตลาดรองรับทั้งในเมืองหลักและเมืองรองเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพเพิ่มเติม พร้อมเดินหน้ามาตรการเชิงรุก ตามแผนบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 รวม 7 มาตรการ ครอบคลุม 25 แผนงาน ให้ผลไม้ไทยปีนี้ได้ราคาดีตลอดทั้งปี” นายจิรายุ กล่าว