‘จุรินทร์’ เคาะหน้ากากอนามัย – เจลล้างมือเป็นสินค้าควบคุม ชงเข้า ครม. วันนี้

836

‘จุรินทร์’ เคาะหน้ากากอนามัย – เจลล้างมือเป็นสินค้าควบคุม ชงเข้า ครม. วันนี้

     นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร. ครั้งที่ 1/2563 โดยมีเรื่องเพื่อพิจารณาสำคัญ คือ การกำหนดสินค้าควบคุมพ.ศ. 2562 เพิ่มเติมคือ 1.หน้ากากอนามัย 2.เส้นใยโพลีโพรพิลีน (สปันบอนด์) เพื่อใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัย 3.ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ โดยอาศัยอำนาจทางกฎหมาย พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 การกำหนดมาตรการบริหารจัดการสินค้าควบคุมพ.ศ. 2562 (เพิ่มเติม)

     โดยหลังการประชุม นายจุรินทร์ ร่วมกับกรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกับ รองศาสตราจารย์ นพ.นิพิฐ พิรเวช แถลงสรุปการประชุม กกร. ว่าผลการประชุมมีประเด็นสำคัญให้กำหนดหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือเป็นสินค้าควบคุม นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขั้นตอนถัดนี้ไปคือจะต้องมีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบ โดยตนจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) และถ้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก็จะเร่งดำเนินการให้มีผลบังคับใช้ในทันที ซึ่งถ้าที่ประชุมให้ความเห็นชอบให้วันพรุ่งนี้ ก็จะทำให้สินค้าควบคุมตามกฎหมายเพิ่มขึ้นจาก 52 รายการที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็น 54 รายการถ้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบให้ทั้งหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือเป็นสินค้าควบคุม ก็จะทำให้สามารถดำเนินการมาตรการต่าง ๆ ตามมาได้ในการที่จะควบคุมทั้งในเรื่องของปริมาณและในเรื่องของราคา เช่น กรมการค้าภายในสามารถที่จะกำหนดให้ผู้ผลิตผู้แทนจำหน่ายผู้นำเข้าและผู้ส่งออกต้องแจ้งข้อมูลในเรื่องของต้นทุนราคาซื้อราคาขายปริมาณการผลิตปริมาณการนำเข้าปริมาณการส่งออกหรือว่าสต๊อกได้ในทันที

นายจุรินทร์ กล่าวว่านอกจากนั้นสามารถที่จะกำหนดให้ผู้ผลิตผู้นำเข้าหรือตัวแทนจำหน่ายสามารถที่จะกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศหรือในพื้นที่ที่ขาดแคลนตามกฎหมายได้รวมทั้งสามารถที่จะกำหนดให้มีการปิดราคาขายปลีกเป็นต้น ซึ่งมาตรการนี้ก็จะกำหนดตามมาเมื่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว และจะแถลงให้ทราบต่อไป รวมทั้งการที่จะกำหนดให้การส่งออกต้องขออนุญาตในปริมาณจำนวนที่กำหนดได้ก็จะเป็นมาตรการที่กำลังตามมา เพื่อให้ปริมาณหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือมีปริมาณใช้อย่างเพียงพอในประเทศเสียก่อ

“และผมได้ตั้งวอร์รูมขึ้นมา เพื่อติดตามสถานการณ์ของไวรัสโคโรน่าอย่างใกล้ชิดเฉพาะในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์เพื่อติดตามสถานการณ์ของไวรัสเช่นเดียวกัน เพื่อแก้ปัญหาสินค้าต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์ ให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการและราคาที่เป็นธรรมกับผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือรวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วยและการให้มีอำนาจกำหนดมาตรการต่างๆ ที่จะบังคับใช้ต่อไปโดยปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานและอธิบดีกรมการค้าภายใน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยอำนาจในการตัดสินใจเพื่อแก้ปัญหาผลิตภัณฑ์หรือสินค้าขาดแคลนและจัดการตามกฎหมายกับผู้ที่กักตุนหรือว่ากระทำผิดกฎหมายได้ในทันที” นายจุรินทร์กล่าว

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า โดยภาวะปกติเท่าที่กรมการค้าภายใน ได้ติดตามสถานการณ์และรวบรวมตัวเลขมาทั้งหมดแล้วพบว่าปริมาณการผลิตกับปริมาณการใช้ในภาวะปกตินั้นอยู่ในภาวะที่สมดุล แต่เมื่อเกิดกรณีไวรัสโคโรน่าขึ้นมาก็ได้ประเมินตัวเลขว่าอาจจะมีความต้องการใช้เพิ่มเติมขึ้นจำนวนหนึ่ง ซึ่งแต่เดิมในภาวะปกติตัวเลขการใช้หน้ากากอนามัยภายในประเทศอยู่ที่เดือนละ 30 ล้านชิ้นแต่ในช่วงถัดจากนี้ไป และในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานั้นอาจจะมีความต้องการใช้เพิ่มเติมขึ้นเป็น 40 ล้านชิ้นถึง 50 ล้านชิ้นจึงเป็นที่มาที่จำเป็นจะต้องประสานงานเร่งให้มีการผลิตเพิ่มขึ้นโดยเร็วเพื่อให้สนองกับความต้องการใช้ภายในประเทศ กรมการค้าภายในได้เชิญผู้ผลิตมาพบแล้วหนึ่งครั้ง และวันนี้ในช่วงบ่ายก็จะได้มีการพบกับผู้ผลิตและผู้เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่งเพื่อที่จะกำหนดมาตรการร่วมกันปรากฏว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเกิดภาวะที่อาจจะทำให้ผู้บริโภคจำนวนหนึ่งเกรงว่าจะไม่มีหน้ากากอนามัยหรือเจลล้างมือพอที่จะใช้สำหรับป้องกันโรคไวรัสโคโรน่าจึงเป็นที่มาที่อาจจะมีบางพื้นที่ที่ไปซื้อมาเก็บไว้เกินปริมาณความต้องการใช้ปกติจึงทำให้เกิดภาวะขาดแคนสินค้าเป็นจุด ในบางพื้นที่บางจังหวัดหรือในบางจังหวัดก็อาจจะขาดไปในภาพรวม รวมทั้งอาจจะเกิดจากการมีการนำออกไปนอกประเทศมากเกินภาวะปกติอาจส่งผลให้ตัวเลขภายในไม่พอใช้จึงเป็นที่มาที่ทำเป็นจะต้องกำหนดให้ทั้งสองตัวนี้เป็นสินค้าควบคุมเพื่อกรมการค้าภายในและวอร์รูมของกระทรวงพาณิชย์สามารถใช้มาตรการต่างๆ ที่จะตามมาได้เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวให้ผู้บริโภคได้มีสินค้าใช้ได้อย่างทั่วถึงในเวลาที่รวดเร็วที่สุด

เท่าที่หารือเบื้องต้นนั้นจะต้องมีการกำหนดให้การส่งออกอาจจะต้องมาขออนุญาตโดยกรมการค้าภายใน เพื่อที่กรมการค้าภายในจะได้ควบคุมดูแลปริมาณการผลิตปริมาณความต้องการใช้ในประเทศรวมทั้งการกระจายสินค้าต่างๆ ให้มีความทั่วถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้และเพื่อไม่ให้การส่งออกเป็นปัญหาทำให้เกิดความต้องการใช้ภายในขาดแคลน จึงเป็นที่มาที่อาจจะจำเป็นต้องกำหนดให้มีการขออนุญาตจากกรมการค้าภายในเมื่อจะมีการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ส่วนเรื่องคุณภาพทาง อ.ย.จะเป็นผู้กำหนด ส่วนปริมาณเบื้องต้นหารือในวันนี้ว่าเป็นความเห็นของที่ประชุม กกร. กำหนดว่าถ้าจะต้องนำออกไปนอกราชอาณาจักรเกินกว่า 500 ชิ้นขึ้นไปจะต้องขออนุญาตเคลื่อนย้ายจากกรมการค้าภายใน ซึ่งกรมการค้าภายในจะพิจารณาให้เสร็จ และมาตรการที่ออกมาหลังจากคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว และจะเป็นมาตรการระยะสั้นจะใช้เท่าที่จำเป็นและเมื่อผลสภาวะไม่ปกติไปแล้วก็จะยกเลิกโดยเร็ว ตั้งใจว่าถ้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในวันพรุ่งนี้จะดำเนินการให้เสร็จในทันทีจะสามารถดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการต่อไปได้

ด้านนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่าผู้ค้าปลีกหลายรายให้ความร่วมมือนำมาวางขายแล้วการจัดสรรจะลงไปอย่างถี่ถ้วนและกว้างขวางมากขึ้นถัดจากนี้ไปตั้งแต่ 500 ชิ้นหรือ 10 กล่องขึ้นไปต้องขออนุญาตเคลื่อนย้ายและอาจจะจำกัดการซื้อครั้งหนึ่งซื้อได้ไม่เกินกี่ชิ้นถ้าใครซื้อมากเกินไปและออกนอกประเทศก็จะถูกจำกัดด้วยปริมาณที่เรากำหนดอยู่แล้วว่าให้ซื้อได้คนหนึ่งไม่เกินกี่ชิ้นจะทำให้การหิ้วนอกประเทศยากขึ้นและจะประสานกับกรมศุลกากรช่วยจำกัดการส่งออกให้ได้ผลมากขึ้นไม่น่าจะเกินวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ประกาศฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้

ส่วน นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ข้อเท็จจริงทางสุขอนามัย คือ ประชาชนสามารถใช้วิธีการอื่นที่ทดแทนได้เช่นเดียวกันจะได้ไม่ต้องไปซื้อเจลล้างมือมาเก็บไว้ทำให้ผลิตไม่ทันและของขาดตลาดโดยไม่จำเป็นโดยในประเด็นการป้องกันการติดเชื้อโคโรน่าไวรัส กระทรวงสาธารณสุขแนะนำเรื่องการล้างมือเป็นสิ่งสำคัญ ในการป้องกันการติดเชื้อ การใช้เจลล้างมือก็ดี แต่ถ้าเราสามารถล้างมือได้ล้างให้ครบทุกจุดก็ถือว่าสำคัญที่สุดและสามารถทำได้ทุกบ้านล้างด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำสบู่ก็จะดีกว่าแอลกอฮอล์ด้วยซ้ำ เพราะเราสามารถทำได้ทุกที่ที่เรามีและเราสามารถที่จะล้างได้ครบทุกส่วน สำหรับหน้ากากอนามัยในประชาชนทั่วไปที่ไม่เจ็บป่วยการใช้หน้ากากอนามัยที่ใช้ผ้าทำสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ในการป้องกันละอองไม่ให้เข้าสู่ปากหรือตาใช้ผ้าก็สามารถป้องกันได้ไม่จำเป็นต้องไปซื้อหน้ากากอนามัยแต่ถ้าจะซื้อก็ตามที่ท่านรองนายกฯบอกว่าเราต้องดูมาตรการต่างๆ ที่กระทรวงพาณิชย์ออกมาช่วยทำให้การใช้ของประเทศไทยพอเหมาะและทั่วถึง