รมต. พวงเพ็ชร ลงพื้นกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า ยึดของกลางมูลค่ากว่า 5 ล้าน ย้ำโทษผู้จำหน่ายคุก 3 ปี ปรับ 6 แสน

388

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 67 – ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำทีม สคบ. ผนึกกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่กวาดล้างร้านลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ย่านคลองถม ซอยนวลจันทร์และซอยเสนานิคม อย่างเฉียบขาด เพื่อปกป้องคุ้มครองผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก และเยาวชน รวมถึงนักท่องเที่ยว

blank

เลขา สคบ. นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผอ.ส่วนบังคับคดี พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. ร่วมกับ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ. อดิศร์ งามจิตสุขศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายศุภกฤต บุญขันธ์ และกรมควบคุมโรค รวม 25 นาย เข้าตรวจค้น กรณีได้มีประชาชนร้องเรียนมีการเปิดร้านลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ในย่านแหล่งท่องเที่ยว มีเด็กและเยาวชน รวมถึงนักท่องเที่ยว ไปซื้อมาสูบจำนวนมาก เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง บริเวณดังกล่าว และลงพื้นที่ตรวจสอบร้านลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 10 ร้าน พบว่ามีการขายจริง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนกับเจ้าของร้านและยึดบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีกับผู้ขายและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พบมีจำนวนเงินรายได้จากการขายประมาณ 30,000 – 40,000 บาทต่อวัน รวมมูลค่าสินค้าจากทุกร้านประมาณ 5,000,000 บาท

blank

ทางด้าน ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ” การลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เป็นการมอมเมาเด็กและเยาวชน ปัจจุบันมีการออกแบบให้ภาพลักษณ์ที่แปลกใหม่ รูปทรงสวย มีขนาดเล็ก สามารถพกซ่อนติดตัวได้ง่าย ดึงดูดเด็กและเยาวชน ซึ่งมีการขายอย่างโจ่งแจ้ง ท้าทายกฎหมาย
ในวันนี้ต้องขอขอบคุณหน่วยงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กทม. และกรมควบคุมโรค เป็นอย่างยิ่ง ที่ผนึกกำลังร่วมมือในการปราบปรามการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและต่อจากนี้ สคบ. จะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับรวมถึงท้องถิ่นบังคับใช้กฎหมายกวาดล้างสินค้าเหล่านี้ให้หมดไป พร้อมกับสร้างมาตรการป้องกัน สร้างการรับรู้ถึงพิษภัยบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งจะช่วยเป็นเกราะป้องกันได้

อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับผู้ประกอบการที่ยังลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นสิ่งที่กระทำผิดกฎหมาย ขอให้เลิกขายอย่างเด็ดขาด หากพบเห็น สคบ. จะดำเนินคดีกับผู้ขายและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อปกป้องคุ้มครอง เด็ก และเยาวชน รวมทั้งนักท่องเที่ยว จากมหันตภัยพิษร้ายจากบุหรี่ไฟฟ้า”

ทั้งนี้ ปัจจุบันการขายบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดพบเห็นการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ หรือ www.ocpb.go.th หรือศูนย์ดำรงธรรม ในทุกจังหวัด

ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค