กสทช. ออกมาตรการสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผู้ที่ถือครองซิมตั้งแต่ 6 เบอร์ขึ้นไป ต้องยืนยันตัวตนตามเวลาที่กำหนด เริ่มบังคับใช้ 16 ม.ค. 2567

202

12 ม.ค. 67 – พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า มาตรการของ กสทช. กำหนดให้ผู้ถือครองซิมตั้งแต่ 6 เลขหมายขึ้นไปมายืนยันตัวตน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ม.ค. 2567 นี้เป็นต้นไป หากผู้ถือครองซิมการ์ดรายใดไม่มายืนยันตัวตนในกำหนด หมายเลขอาจถูกระงับการใช้งาน และถูกเพิกถอนไปในที่สุด เพื่อป้องกันมิจฉาชีพนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมออนไลน์

“ซิมการ์ดโทรศัพท์เป็นอุปกรณ์ที่กลุ่มมิจฉาชีพ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้องมีและใช้ในการกระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นการโทรหาเหยื่อ, การส่งข้อความ หรือ sms แนบลิงก์, โอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง ร่วมกับสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต กสทช. ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว มุ่งเน้นจัดระเบียบซิมการ์ด โดยเฉพาะหมายเลขในระบบเติมเงิน ที่ไม่มีการลงทะเบียนผู้ใช้งานจริง หรือลงทะเบียนด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน กสทช. จึงได้ออกประกาศ เรื่อง มาตรการยืนยันตัวตนและข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่” พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าว

โดยประกาศดังกล่าวมีสาระที่สำคัญ ดังนี้

1.ผู้ที่ถือครองซิมการ์ด ตั้งแต่ 6-100 หมายเลข ให้ยืนยันตัวตนภายใน 180 วัน

2.ผู้ที่ถือครองซิมการ์ด 101 หมายเลข ขึ้นไป ให้ยืนยันตัวตนภายใน 30 วัน หากไม่มายืนยันตนในกำหนด จะถูกพักใช้ ระงับการโทรออกและการใช้อินเทอร์เน็ต ยกเว้นโทรเบอร์ฉุกเฉิน และมีเวลาอีก 30 วัน หากยังไม่มีการยืนยันตน จะถูกเพิกถอนการใช้เบอร์ของซิมการ์ดที่อยู่ในความครอบครองทั้งหมด

โดยในระยะแรกจะเร่งรัดให้ผู้ถือครองซิมการ์ด จำนวน 101 เลขหมายขึ้นไปเข้ามายืนยันตัวตนก่อน เนื่องจากมีกำหนดระยะเวลาที่สั้นกว่า คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานส่วนใหญ่ เนื่องจากผู้ใช้บริการที่อยู่ในข่ายต้องยืนยันตัวตน มีประมาณ 3 แสนราย คิดเป็นร้อยละ 0.5 ของจำนวนผู้ใช้งานทั้งหมดในทุกเครือข่าย มาตรการดังกล่าว กสทช. ออกมาเพิ่มเติมเพื่อสกัดการทำงานของกลุ่มมิจฉาชีพ จากที่มีอยู่เดิม 7 มาตรการ อาทิ การระงับการโทรเข้าจากต่างประเทศในรูปแบบที่คนร้ายใช้อยู่เป็นประจำหรือไม่ทราบแหล่งที่มา, เพิ่ม Prefix +697 และ +698 หน้าเลขหมายการโทรเข้าจากต่างประเทศผ่าน VOIP และ Roaming ตามลำดับ, การจัดทำบริการ *138 ปฏิเสธการรับสายต่างประเทศ, จัดระบบลงทะเบียนสำหรับผู้ส่งข้อความไปยังผู้รับจำนวนมากๆ (Sender name), จำกัดจำนวนการลงทะเบียนซิมการ์ด และยกเลิกการส่ง SMS แนบลิ้งค์ บางประเภท เป็นต้น การออกมาตรการดังกล่าว ดำเนินการควบคู่ไปกับการออกกวาดล้างจับกุมสถานีวิทยุคมนาคมเถื่อน และแหล่งจำหน่ายอุปกรณ์วิทยุคมนาคมผิดกฎหมาย รวมทั้งจัดระเบียบเสาสัญญาณตามแนวชายแดนของผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาต

ล่าสุด ทางด้านผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ AIS ได้ประกาศแจ้ง ระบุว่า เอไอเอสอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ถือครองเลขหมายตั้งแต่ 6 เบอร์ขึ้นไป (เฉพาะผู้ที่ได้รับ SMS จาก AIS ในวันที่ 16 ม.ค. 2567 เท่านั้น)

ยืนยันตัวตนผ่านช่องทาง AIS
– ผู้ที่ถือครองเลขหมายเอไอเอสตั้งแต่ 101 เบอร์ / บัตรประชาชน
ยืนยันการใช้งาน ภายใน 14 ก.พ. 2567
– ผู้ที่ถือครองเลขหมายเอไอเอสตั้งแต่ 6 – 100 เบอร์ / บัตรประชาชน
ยืนยันการใช้งาน ภายใน 13 ก.ค. 2567
หากไม่ดำเนินการภายในวันที่กำหนด จะถูกระงับเลขหมายชั่วคราวตามประกาศ กสทช.

เพิ่มเติมคลิก : https://m.ais.co.th/yGH29R1fE

418942008_782057097294440_4068045400853950294_n.jpeg

ในส่วนของผู้ใช้ ทรูมูฟ เอช สามารถยืนยันการถือครองเลขหมาย ผ่านทรูช็อปทั่วประเทศ หรือ https://www.true.th/re-id/true และลูกค้าดีแทค สามารถยืนยันการถือครองเลขหมาย ผ่านศูนย์บริการดีแทคทั่วประเทศ หรือ https://www.true.th/re-id/dtac