เชียงใหม่, 13 พฤศจิกายน 2568 — Maxim ประเทศไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท อีวี พาวเวอร์ เอ็นเนอร์จี จำกัด (EV Power Energy) เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ด้านการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้กับคนขับพาร์ทเนอร์ Maxim โดยสามารถเข้าใช้บริการสถานี Liquid-Cooled Ultra-Fast Charging แห่งแรก ในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ในอัตราค่าบริการที่คุ้มค่า พร้อมเปิดให้ใช้สิทธิ์ได้ทันทีหลังลงทะเบียน
ความร่วมมือนี้ช่วยให้คนขับพาร์ทเนอร์ Maxim ชาร์จรถได้ในราคาต่ำกว่าราคาตลาดเฉลี่ยราว 20% โดยสถานีชาร์จตั้งอยู่ที่ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง มาพร้อมเทคโนโลยี Liquid-Cooled Ultra-Fast Charging ขนาด 720 kW ที่ทันสมัย ช่วยให้การชาร์จรวดเร็ว เสถียร และปลอดภัย ในอัตราค่าไฟเพียง 6.50 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ทั้งนี้ คนขับพาร์ทเนอร์รถไฟฟ้าของ Maxim สามารถเข้าถึงบริการได้ทันทีผ่านแอปพลิเคชัน OneCharge
นายรฐกฤษ ใยดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท อีวี พาวเวอร์ เอ็นเนอร์จี จำกัด กล่าว “ในฐานะคนที่เคยใช้รถน้ำมันมาก่อนและเพิ่งเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า ผมเข้าใจดีถึงความท้าทายของผู้ใช้ EV ไม่ว่าจะเป็นจุดชาร์จน้อย ชาร์จช้า หรือบางครั้งชาร์จไม่ได้เลย สิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้ EV Power Energy สร้างสถานีชาร์จที่มีมาตรฐานสูง รวดเร็ว และเสถียรที่สุด เพื่อให้คนเชียงใหม่ได้ใช้บริการที่มั่นใจได้จริง และการร่วมมือกับ Maxim ครั้งนี้ จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงพลังงานสะอาดเข้ากับระบบขนส่งสมัยใหม่ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้รถไฟฟ้าในภาคเหนืออย่างแท้จริง”
นายพงศ์พัฒน์ อักษราวรกานต์ กรรมการผู้จัดการ Maxim ประเทศไทย กล่าว “การร่วมมือกับ EV Power Energy ในครั้งนี้ เป็นการประสานเทคโนโลยีของ Maxim กับความเชี่ยวชาญด้านพลังงานสะอาดของพาร์ทเนอร์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อคนขับพาร์ทเนอร์และผู้โดยสาร เราเชื่อมั่นว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จที่ครอบคลุม พร้อมราคาที่เป็นธรรม จะช่วยขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางด้านการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่ยั่งยืนสำหรับอนาคต”
ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงพันธกิจและความมุ่งมั่นของ Maxim ประเทศไทย ในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบขนส่งพลังงานสะอาด ร่วมพัฒนาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการทำงานของคนขับพาร์ทเนอร์ให้สามารถให้บริการผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยั่งยืน ตอบรับรูปแบบการเดินทางที่เปลี่ยนไปในอนาคต
