14 ธ.ค. 67 – นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการเกิดของประชากรจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีจำนวนกำลังแรงงานลดลง และอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศชาติได้ในอนาคต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ จึงได้ให้แนวคิดในการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร 1,000 บาท ต่อบุตร 1 คน คราวละไม่เกิน 3 คน ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม หาแนวทางการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร เพื่อส่งเสริมการมีบุตรของผู้ประกันตนให้เพิ่มขึ้น
นางมารศรี กล่าวต่อว่า สำนักงานประกันสังคม ได้ศึกษาแนวทางการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตรที่เหมาะสมโดยทันที ก่อนเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคม ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแนวทางการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตรอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี (เดือนที่1 – 72) โดยจะเป็นปรับการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร จากอัตราที่จ่ายในปัจจุบัน 800 บาท เป็น 1,000 บาท ต่อบุตร 1 คน คราวละไม่เกิน 3 คน
ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม เดินหน้าเสนอร่างกฎกระทรวงตามขั้นตอนทางกฎหมายผ่านเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอเรื่องเข้าวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อมีมติเห็นชอบและลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะมีผลใช้บังคับในเดือนมกราคม 2568 นี้ อย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตร สำนักงานประกันสังคมจ่ายค่าคลอดบุตรแบบเหมาจ่าย จำนวน 15,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ซึ่งจะเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกันตน
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้ายว่า สำนักงานประกันสังคม คาดว่าในเดือนมกราคม 2568 จะมีบุตรของผู้ประกันตนที่เข้าเกณฑ์ประมาณ 1.2 ล้านคน ซึ่งการรับ “เงินสงเคราะห์บุตร” จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีผ่านระบบพร้อมเพย์ ทุกสิ้นเดือน แต่หากตรงกับวันหยุดหรือวันเสาร์ – อาทิตย์ จะทำการโอนให้ในวันทำการก่อนวันหยุด สุดท้ายนี้ ขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจ สำนักงานประกันสังคมพร้อมขับเคลื่อนต่อไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ประกันตนเสมอ
