รวบแล้ว!! หนุ่มต่างด้าวหึงโหด บุกแทงอดีตแฟนสาว 26 แผล กล้องวงจรปิดบันทึกภาพชัดขณะก่อเหตุ สารภาพขอคืนดีไม่เป็นผลจึงก่อเหตุเพราะความโกรธ
วันที่ 5 สิงหาคม 2563 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ช่วงเย็นวันที่ 31 ก.ค.63 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุสะเทือนใจจากการที่ได้มีคนร้ายบุกเข้าไปภายในบ้านพักของ หญิงสาวรายหนึ่ง อายุประมาณ 37 ปีในหมู่บ้านย่าน ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ แล้วได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ด้วยการใช้อาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ และต่อมาทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าทำการช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกทำร้าย พบว่ามีบาดแผลถูกแทงตามร่างกายถึง 26 แผล ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุทราบว่าเป็นอดีตแฟนหนุ่มของผู้บาดเจ็บ ที่ได้แอบบุกเข้ามาภายในบ้านพัก แล้วทำร้ายร่างกายก่อนจะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการติดตามจับกุมตัว ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงค่ำคืนของวันที่ 4 ส.ค.63 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นาย SAI NYAR NA หรือ SAI KAN อายุ 42 ปี เป็นบุคคลไม่มีสัญชาติ ซึ่งเป็นคนร้ายก่อเหตุในคดีดังกล่าว พร้อมด้วยหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดในวันที่คนร้ายก่อเหตุบุกเข้าไปทำร้ายร่างกายหญิงสาวผู้บาดเจ็บ โดยจากการสอบ สวนผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า คนร้ายได้แอบปีนรั้วเข้ามาในบ้านเมื่อช่วงบ่ายของวันเกิดเหตุ จากนั้นได้เดินอ้อมไปบริเวณด้านหลังและงัดประตูบ้านด้านหลังเข้าไป เมื่อเข้าไปถึงในบริเวณบ้านชั้น 1 ได้พบกับหญิงสาวผู้เสียหายจึงได้เข้าทำร้ายร่างกายผู้เสียหายและพาผู้เสียหายขึ้นไปทำร้ายที่ห้องนอนชั้นสอง จากนั้นจึงหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไปทางเดิม และได้ขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 100 สีน้ำเงิน-ดำ หลบหนีไปตามถนนเชียงใหม่- ดอยสะเก็ด มุ่งหน้าแยกแม่กวง
ขณะเดียวกันจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ตนเคยคบหากับหญิงสาวผู้เสียหาย และพักหลังมักมีเรื่องทะเลาะมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง เพราะเกิดจากความหึงหวง จนกระทั่งได้เลิกรากันไปประมาณ 2 เดือนแล้ว แต่ทางตนก็พยายามตามง้อขอคืนดี และต่อมาตนได้ทราบว่าฝ่ายหญิงไปมีคนใหม่ จึงเกิดความหึงหวง โดยในวันก่อเหตุ ตนได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับหญิงสาว เพื่อสอบถามความจริง แต่ทางฝ่ายหญิงไม่ยอมพูดคุยด้วย จึงได้ตามมาที่บ้านแล้วบุกเข้าไปทำร้ายร่างกาย ก่อนจะหลบหนีไปกบดาน และถูกทางเจ้าหน้าที่จับกุม โดยหลังการสอบสวนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาส่งให้ทางพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งจะได้มีการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง
