มท.1 สั่งเข้มช่วงลอยกระทง กำชับทุกพื้นที่กวดขัน พลุ ดอกไม้เพลิง โคมลอย และห้ามยิงปืนขึ้นฟ้า ฝ่าฝืนมีบทลงโทษตามกฎหมายเด็ดขาด

19

15 พ.ย. 67 – น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันที่ 15 พ.ย. เป็นวันลอยกระทง ซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญของไทย ที่ประชาชนนิยมเล่นดอกไม้เพลิง จุดพลุ โคมลอย ตามสถานที่ต่างๆ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อเหตุระเบิดและอัคคีภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าวบ่อยครั้ง ตลอดจนการลักลอบใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ดังนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มีความห่วงใยในเรื่องของความปลอดภัยของประชาชน และนักท่องเที่ยว จึงได้ให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กำชับและเน้นย้ำกับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และนายอำเภอทั้ง 878 อำเภอ ถือปฏิบัติตามมาตรการการกวดขันการเล่นดอกไม้เพลิง การจุดและปล่อย พลุ ตะไล โคมลอย โคมควัน และการใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า และมาตรการในการป้องกันมิให้เกิดเหตุระเบิดและเพลิงไม้ เพื่อป้องกันอันตรายและลดโอกาสเกิดอุบัติภัยที่อาจสร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หากพบการฝ่าฝืนกฎข้อบังคับต่าง ๆ ให้ดำเนินการลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ รวมถึงผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับการจุดและปล่อยพลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ให้นายทะเบียนท้องที่และเจ้าหน้าที่ตาม พรบ.อาวุธปืนฯ ออกตรวจร้านค้าที่ไม่ได้รับอนุญาต โดยบูรณาการร่วมกับ อปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งกวดขันห้ามมิให้จำหน่ายดอกไม้เพลิงนอกเหนือจากสถานที่ที่ได้รับอนุญาต

สำหรับการป้องกันความปลอดภัยการเดินทางของสายการบิน ให้ทุกจังหวัดประสานกับศูนย์บริหารจัดการห้วงอากาศ (AMC) บจก.วิทยุการบินแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการพิจารณาพื้นที่ขออนุญาตไม่ให้กระทบต่อความปลอดภัยห้วงอากาศหรือเส้นทางการเดินอากาศ รวมถึงประสานกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการกำกับดูแล สอดส่อง ตรวจจรา ท่าเรือ โป๊ะ สถานีขนส่ง เพื่อมิให้เกิดอุบัติภัยหรืออุบัติเหตุจากการจุดและปล่อยพลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน และกำชับมิให้มีการบรรทุกผู้โดยสารจนมีน้ำหนักหนักเกินมาตรฐาน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับมาตรการลงโทษตามกฎหมายในกรณีที่ปรากฏว่า ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนกระทำผิดฐานใช้อาวุธปืนยืงขึ้นฟ้าโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายกับประชาชน ให้นายทะเบียนท้องที่พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตตามพรบ.อาวุธปืนฯ ได้ทันที โดยหากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด หรือรู้เบาะแสที่อาจนำไปสู่การกระทำความผิด สามารถแจ้งสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191 เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำความผิดได้ทันที