รักษาการผู้การฯทางหลวง ยอมรับเรื่องส่วยอยู่ใต้พรมมานาน ขอบคุณ “วิโรจน์” ที่นำเรื่องนี้มาเปิดเผย พร้อมรีเซ็ตองค์กรให้มีเกียรติศักดิ์ศรี หากตำรวจรายใดเอี่ยวพร้อมเอาผิดไม่มีละเว้น

120

‘พล.ต.ต.จรูญเกียรติ’ ยอมรับ เรื่องส่วยอยู่ใต้พรมมานาน ขอบคุณ “วิโรจน์” ที่นำเรื่องนี้มาเปิดเผย พร้อมรีเซ็ตองค์กรให้มีเกียรติ-ศักดิ์ศรี ตำรวจรายใดเอี่ยวทุจริตส่วยสติ๊กเกอร์ ไล่ตรวจเส้นเงิน พร้อมเอาผิดไม่มีละเว้น 

วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.00 น. ที่ กองบังคับการตำรวจทางหลวง ถ.ศรีอยุธยา กรุงเทพฯ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รักษาราชการแทน ผบก.ทล. เรียกตำรวจทางหลวงเข้าร่วมประชุมหารือถึงแนวทางการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นส่วยรถบรรทุก โดยเปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมว่า วันนี้ตนเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงระดับผู้กำกับการมาประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการต่อไปและกำหนดแก้ไขปัญหาเรื่องเร่งด่วน เบื้องต้นภายหลังประชุมจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับคำสั่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำหรับเรื่องการพิจารณาเอาผิดนั้น เป็นนโยบายของ ผบ.ตร. เน้นย้ำในการกวาดบ้านตัวเอง และในฐานะตำรวจทางหลวง เราไม่อยากตอบว่ามันไม่มีเรื่องส่วยเกิดขึ้น เพราะมันอยู่ในพรมมานาน ขอบคุณนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่นำเรื่องนี้มาเปิดเผย และต้องขอขอบคุณสมาพันธ์รถบรรทุกแห่งประเทศไทยที่เข้ามาให้ข้อมูล นอกจากนี้ ในฐานะที่ตนได้รับรอบหมายให้มาดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้ ยืนยันว่าจะนำพาหน่วยนี้ให้ไปในทางที่ถูกต้อง และหากข้าราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจรายใดเข้ามาเกี่ยวข้อง จะต้องถูกดำเนินการเช่นเดียวกัน อีกทั้งในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ตนจะแก้ไขทั้งระบบไปด้วยกันไม่แก้เฉพาะจุด อะไรที่ถูกหมักหมมมานาน หรือมีความเหลื่อมล้ำก็จะแก้ไขปรับปรุงไปด้วย

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังเผยว่า ไม่มีความหนักใจที่ต้องเข้ามาแก้ไขเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่นายวิโรจน์พูดนั้นมันถูกต้องทุกอย่าง แค่ต้องทำให้ถูกต้องตามแนวทาง และตำรวจทางหลวงจะต้องเป็นหน่วยงานที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีมากกว่านี้ เพื่อรองรับนโยบายรัฐบาลได้ ส่วนกรณีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหนนั้น ขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และตนจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้ด้วย เราจะไม่ให้ความช่วยเหลือใคร ใครทำอะไรไว้ก็จะต้องรับในสิ่งนั้นไม่มียกเว้นแน่นอน ตนทำงานมาเยอะ มีพื้นฐานการทำงานในสิ่งอยุติธรรมมาเยอะ จะไม่ทำให้ ปปป.เสื่อมเสีย ตนมาตรงนี้แม้มาแก้ไขในช่วงสั้นๆ แต่ก็จะยกเลิกคำสั่ง แก้ไขปรับปรุงและบังคับใช้กฎหมายโดยเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ ในบรรดาหน่วยเฉพาะกิจ ตนจะยกเลิกทั้งหมด อะไรที่เป็นปัญหาส่อทุจริต อาจจะพิจารณายกเลิกในวันนี้ และหลังประชุมเสร็จสิ้นอาจจะสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร

เมื่อถามถึงเรื่องการบังคับใช้กฎหมายหลังจากนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยว่า ตำรวจทางหลวงมาถึงการเปลี่ยนแปลงแล้ว จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมเป็นธรรม แม้ว่าทุกขั้นตอนหลังจากนี้ย่อมกระทบไปถึงธุรกิจหรือผู้ประกอบการ แต่ก็ต้องปรับตัวตามให้ทัน ส่วนประเด็นที่มีการพูดกันว่าหลังจากนี้รถบรรทุกอาจจะถูกจับทุกด่านตรวจนั้น เรามาถึงจุดนี้ต้องยอมรับความเป็นจริง การปรับตัว คือ บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมเป็นธรรม

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุอีกว่า ตนได้สั่งการให้ตำรวจทางหลวงทั่วประเทศเร่งตรวจสอบเรื่องสติ๊กเกอร์ ถ้าส่อ ว่ามีการทุจริต ขอให้รวบรวมมาเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนสืบสวนดำเนินการ แม้ว่าท้ายสุดจะมีบุคลากรตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ตนก็ไม่หนักใจ ถึงจะเสียบุคลากรก็ต้องยอมรับความจริง อย่างไรก็ตาม เรื่องกรอบระยะเวลาการดำเนินการแก้ไขปรับปรุงปัญหาเรื่องนี้ ตนขอไม่ช้า เพราะเป็นคนทำงานเร็ว ลูกน้องต้องเดินตามให้ทัน ส่วนเรื่องเส้นเงิน ถ้าพบข้อเท็จจริงจะประสาน ปปป. เข้ามาดูในเรื่องการทุจริต โดยจะทำควบคู่กัน อาจจะเรียกเข้ามาพูดคุย จากนั้นจะมีขั้นตอนดำเนินการอีกครั้งในภายหลัง

เมื่อถามถึงนโยบายบังคับใช้กฎหมายอาจจะกระทบกับภาคการขนส่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า จริงๆตนก็เป็นห่วง แต่ก็อยากให้เข้าใจว่าตำรวจทำหน้าที่อำนวยความยุติธรรม ทำโดยอะลุ่มอล่วยมาตลอด เพื่อให้ฟันเฟืองทุกอย่างเดินไปได้ วันหนึ่งสิ่งที่ดำเนินการมันไม่ถูกต้อง ก็ต้องแก้ไข ทุกคนต้องยอมรับการแก้ไข ตนมาตรงนี้ไม่มีข้องเกี่ยวกับผลประโยชน์ใด จะทำตามอำนาจหน้าที่ ไม่อยากให้เดือดร้อนแต่ทุกคนก็ต้องปรับตัว

เมื่อต่อข้อถามถึงเรื่องการเข้ามาสะสาง ใบสั่งต่างๆและการแบ่งเปอร์เซ็นต์นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า เรื่องใบสั่งทางหลวง ประชาชนจะต้องยอมรับว่าใบสั่งที่โดนนั้น เป็นผลมาจากการกระทำความผิดหรือไม่ หากไม่ใช่ก็ชี้แจงได้ แต่หลังจากนี้ก็ต้องแก้ทั้งระบบทั้งเรื่องความเร็ว ระบบ และกระทรวงคมนาคมจะต้องไปแก้ไข ไม่อยากให้หมักหมม ที่สำคัญตนฝากหน่วยงานที่สูงกว่านี้ช่วยไปดำเนินการแก้ไขเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานสะดวกมากขึ้นด้วย