นายจ้างขอความเป็นธรรม ถูกสื่อประโคมข่าวกระทืบลูกจ้างสาวจนแท้งลูก เผยความจริงหนังคนละม้วน กระทบหนักทั้งชื่อเสียงธุรกิจ เชื่อมีคนอยู่เบื้องหลังยุภรรยา-ลูกจ้าง หวังผลบางอย่าง

1586

นายจ้างขอความเป็นธรรม ถูกสื่อประโคมข่าวกระทืบลูกจ้างสาวจนแท้งลูก เผยความจริงหนังคนละม้วน กระทบหนักทั้งชื่อเสียงธุรกิจ เชื่อมีคนอยู่เบื้องหลังยุภรรยา-ลูกจ้าง หวังผลบางอย่าง

วันที่ 29 พฤษภาคม 2566 นายชานน (สงวนนามสกุล) พร้อมด้วยนายคณิต โชติขุนทศ ทนายความ นำหลักฐานเอกสาร พร้อมให้ข้อมูลเท็จจริงกับทางสื่อมวลชน จากกรณีก่อนหน้านี้มีการเสนอข่าว น.ส.หอม ไม่มีนามสกุล อายุ 31 ปี ถูกนายชานน อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นจ้างทำร้ายร่างกายจนกะโหลกร้าวและแท้งลูกในครรภ์อายุ 4 เดือน สาเหตุเป็นเพราะไม่พอใจที่ภรรยานายจ้างไปนอนอยู่กับ น.ส.หอม ที่หอพักและไม่ยอมกลับบ้าน ทำให้นายจ้างเข้าบ้านไม่ได้เพราะไม่มีกุญแจบ้าน โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 19 พ.ค.66 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ น.ส.หอม ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ในวันที่ 20 พ.ค.66 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าหลังเกิดเหตุนายชานนได้หลบหนีออกนอกพื้นที่

blank

โดยทาง นายชานน (สงวนนามสกุล) พร้อมด้วยนายคณิต โชติขุนทศ ทนายความ เปิดเผยกับสื่อมวลชนที่ จ.เชียงใหม่ และร้องขอความเป็นธรรมกับเรื่องที่เกิดขึ้น บอกว่าเรื่องราวไม่ได้เป็นไปตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้า ทำให้ตนเองซึ่งเป็นนักธุรกิจและมีคนรู้จักเกือบทั้งจังหวัดได้รับความเสียหายและมีผลกระทบทางธุรกิจ

นายชานน ชี้แจงว่าไม่ได้มีเจตนาทำร้าย น.ส.หอม โดยในคืนเกิดเหตุได้ไปตามหาภรรยาที่ห้องพักของ น.ส.หอม พบภรรยากับ น.ส.หอม นอนด้วยกันอยู่ในห้อง ตนเองได้ดึงแขนภรรยาเพื่อให้กลับบ้านและมีการยื้อยุดฉุดกระชาก จังหวะนั้น น.ส.หอม ได้เข้ามาดึงแขนตนเองไว้ไม่ยอมให้ภรรยาของตนเองกลับบ้าน ตนเองจึงสะบัดแขนไปถูกบริเวณคอและตนเองได้จับแขนทั้งสองข้างของ น.ส.หอม ไว้และบอกว่า “เรื่องครอบครัวอย่ามายุ่ง“ ก่อนจะพาภรรยากลับบ้าน

blank

ต่อมาช่วงสายตนเองได้ไปขอโทษ น.ส.หอม ที่หอพักและอนุญาตให้หยุดงานพักผ่อนและในช่วงเย็นวันเดียวกันก็ยังให้ภรรยาพา น.ส.หอม ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแม่ฮ่องสอน ผลตรวจพบรอยฟกช้ำเล็กน้อยที่คอ ขณะที่นางหอมไม่ติดใจเอาความ ตนเองจึงได้ให้เงิน 10,000 บาท เพื่อเยียวยา แต่ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น ( 20 พ.ค. 66 ) น.ส.หอม กลับไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน โดยระหว่างเจรจามีชายคนหนึ่งโทรศัพท์มาบอกให้ น.ส.หอมเรียกเงินค่าเสียหาย 200,000 บาท ตนเองบอกไปว่าไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น ก่อนในที่สุดจะเจรจาตกลงได้ที่ 20,000 บาท และตนเองก็ได้โอนเงินให้ครบจำนวนแล้ว

หลังจากออกจากโรงพักปรากฏว่า น.ส.หอม เกิดอาการเวียนหัวหน้ามืด พนักงานสอบสวนจึงพาไปโรงพยาบาลแม่ฮ่องสอน ปรากฏว่าแพทย์ระบุว่าตั้งท้องได้ 2 เดือน ซึ่ง น.ส.หอม ได้โวยวายว่าตนเองไม่ได้ท้องเพราะตนเองไม่มีสามีจะท้องได้อย่างไร

blank

นายชานน เปิดเผยว่า ตนเองไม่ทราบมาก่อนว่า น.ส.หอม ตั้งครรภ์และยืนยันไม่ได้มีเจตนาทำร้าย เพราะที่ผ่านมาตนเองได้เมตตาให้ทำงาน ให้อยู่ห้องพักฟรี และ ยังดูแลลูกจ้างคนนี้มาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ทราบว่าเป็นมะเร็งก็ยังไปหาสมุนไพรอย่างดีมาให้กินจนอาการดีขึ้น ขณะที่เรื่องที่เกิดขึ้นตนเองได้ขอโทษแลเยียวยาไปตามสมควรแล้ว แต่เชื่อว่าที่เรื่องไม่ยอมจบเป็นเพราะมีใครบางคนพยายามยุยงปลุกปั่นหวังผลประโยชน์บางอย่าง

นายชานน ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยมีปัญหากับภรรยาจนถึงขั้นหย่ากันแล้ว แต่ก็ยังอยู่กินกันฉันสามี่ภรรยาและทำหน้าที่พ่อและแม่ที่ดีให้กับลูกทั้งสองคนและที่ผ่านมาตนเองก็เคยให้โอกาสภรรยามาแล้วหลายครั้ง เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะมีการวางแผนกันมาล่วงหน้า

ด้านนายคณิต โชติขุนทศ ทนายความ เปิดเผยว่าจนถึงขณะนี้ น.ส.หอม ยังไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี เป็นเพียงการบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและจนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนก็ไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาอะไร แต่กลับมีข่าวว่านายชานน หลบหนีออกจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง โดยหลังเกิดเหตุนายชานนได้ไปส่งลูกอยู่กับญาติชั่วคราวที่ อ.ปาย ก่อนเดินทางมาปรึกษาทนายที่ จ.เชียงใหม่

นอกจากนี้ยังได้เข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เพื่อให้ข้อมูลยืนยันความบริสุทธิ์ใจ โดยข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงที่ถูกเผยแพร่ออกไปทำให้นายชานนต้องได้รับผลกระทบและทำให้ต้องทำเรื่องขอย้ายลูกออกจากโรงเรียนเดิม

ทนายความ ยังเรียกร้องให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้เริ่มกระบวนการสอบสวนเพื่อพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏ