ตำรวจแจ้งข้อหาครูแข้งโหดเตะนักเรียน “ทารุณกรรมเด็ก-ทำร้ายร่างกาย” ศึกษาธิการจังหวัดชี้ชัดโรงเรียนใช้เงินบริจาคต้องอยู่ในระเบียบกรมบัญชีกลาง แม้เป็นเงินนอกงบประมาณ เตรียมสอบข้อเท็จจริงกรณีนำเงินไปใช้เที่ยวร้องคาราโอเกะผิดวัตถุประสงค์
วันที่ 23 พ.ค. 66 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ศึกษาธิการจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ ตำรวจ สภ.เชียงดาว ร่วมแถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือและดำเนินคดีกรณีเด็กนักเรียนถูกครูทำร้ายร่างกายที่อำเภอเชียงดาว
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องได้สั่งการไปที่สำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษาเขต 3 เชียงใหม่ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนในมิติอื่น ๆ ทั้งการดูแลเยียวยาเด็กที่ถูกกระทำและการดำเนินคดีผู้กระทำผิดทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งทำงานเต็มที่ ต้องขอบคุณครูที่ไม่กลัวต่อสิ่งผิดและกล้าออกมาร้องเรียน ยืนยันจะดูแลเรื่องความปลอดภัยอย่างเต็มที่ขอให้สบายใจได้ ส่วนเรื่องการละเมิดสิทธิเด็กในตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลจากโรงเรียนอื่น ๆ แต่ได้กำชับไปยังผู้บริหารเขตการศึกษาให้หมั่นลงพื้นที่ตรวจสอบ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก
นางจิราพร เชาวร์ประยูร ยามาโมโต้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า พม.เชียงใหม่ เดินหน้าช่วยเหลือเยียวยาเด็กนักเรียนที่ถูกกระทำทันทีที่ทราบเรื่อง โดยหลังจากส่งนักสังคมสงเคราะห์ลงพื้นที่ ทราบว่ามีเด็กที่ถูกกระทำจำนวน 3 คน อายุระหว่าง 10-16 ปี ในจำนวนนี้ยังคงเรียนอยู่ที่โรงเรียนแม่แมะ 1 คน ส่วนอีกสองคนตัดสินใจออกจากโรงเรียนกลับไปอยู่ที่บ้านและอยู่ในความดูแลของมูลนิธิเอกชน โดยเด็กทั้งสองคนอยู่ระหว่างติดตามเข้าเยี่ยม แต่อาจต้องใช้เวลาเนื่องจากอยู่พื้นที่ชายแดนและเป็นกลุ่มชาติพันธ์ที่ต้องใช้ล่ามภาษาลาหู่
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดี พ.ต.อ.เสกสรรค์ ขันคำนันต๊ะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเชียงดาว เปิดเผยว่า แม้จะยังติดตามผู้ปกครองไม่ได้ แต่พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดที่ตำรวจสามารถดำเนินคดีได้ทันที โดยพนักงานสอบสวนได้เข้าเป็นผู้กล่าวหาร่วมกับผู้อำนวยการโรงเรียนแม่แมะที่ได้พาเด็กเข้ามาพบตำรวจเมื่อวานนี้ โดยในวันพรุ่งนี้ทีมสหวิชาชีพที่ประกอบด้วยพนักงานสอบสวน อัยการ นักสังคมสงเคราะห์ จะร่วมสอบถามปากคำเด็กตามกระบวนการทางกฎหมาย จากนั้นจะแจ้งข้อหา “ใช้กําลังทําร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” มีโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือ ทั้งจําทั้งปรับ และ ข้อหา ทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก กับนายทักษิณ ครูที่ทำร้ายเด็ก ก่อนนำตัวส่งฟ้องต่อศาลแขวงเชียงดาว
ส่วนผลการตรวจร่างกายที่อาจไม่พบร่องรอยบาดแผล เนื่องจากเหตุเกิดมานานหลายเดือน พ.ต.อ.เสกสรรค์ บอกว่า ไม่มีผลกับการดำเนินคดีเนื่องจากมีคลิปหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว
ส่วนในประเด็นข้อกล่าวหาทุจริตเบิกใช้เงินจากกองทุนบริจาคช่วยเหลือเด็ก นางสาวกิรณา โนนสินชัย รองศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ อธิบายว่าเงินบริจาคถือเป็นเงินนอกงบประมาณ แต่หากเป็นเงินบริจาคที่มีวัตถุประสงค์และสถานศึกษารับบริจาคเข้ามาและออกใบเสร็จให้ แม้จะเป็นเงินนอกงบประมาณ แต่การใช้จ่ายจะอยู่ภายใต้ระเบียบของกรมบัญชีกลางทุกประการ หากนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือผิดระเบียบก็จะเข้าข่ายความผิด โดยเรื่องนี้ศึกษาธิการจังหวัดได้ให้ ส.พ.ป.เขต 3 ต้นสังกัด ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว