ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ “อากาศร้อนจัด” ทำค่าใช้จ่ายครัวเรือนสูงขึ้น

57

26 เม.ย. 66 – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผย สภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายครัวเรือนให้ปรับสูงขึ้นใน 3 หมวด ได้แก่
1) ค่าไฟฟ้า ตามปริมาณการใช้ไฟที่เพิ่มขึ้นของคนที่อาศัยอยู่ในชุมชนเมือง ทำให้คาดว่าค่าไฟฟ้าของครัวเรือนเฉลี่ยในช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค.ในปี 2566 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 974-1,124 บาทต่อครัวเรือน
2) ค่าอาหาร จากราคาวัตถุดิบที่ขยับสูงขึ้นตามสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง ประกอบกับธุรกิจร้านอาหารอาจมีต้นทุนส่วนเพิ่มจากการใช้น้ำแข็งและตู้แช่เพื่อเก็บวัตถุดิบที่เน่าเสียง่าย
3) ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ จากการใช้จ่ายเพื่อรักษาโรคที่มากับความร้อน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในปี 2566 ค่าใช้จ่ายครัวเรือนเฉลี่ยต่อเดือนใน 3 หมวดนี้จะคิดเป็นจำนวนเงินราว 9,666 บาทต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (ปี 2565) ที่อยู่ที่ราว 8,868 บาทต่อครัวเรือน หรือขยายตัวราว 9.0% YoY ท่ามกลางค่าครองชีพทที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่รายได้ยังใกล้เคียงเดิม ทำให้ครัวเรือนต้องมีการปรับลดค่าใช้จ่ายหมวดอื่นๆ ที่อาจมีความจำเป็นน้อยกว่า เช่น ลดการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้า Non-food (เสื้อผ้า รองเท้า) เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายใน 3 หมวดที่ปรับเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีมาตรการบรรเทาผลกระทบจากภาครัฐในเดือนพ.ค.บางส่วนด้วย ก็น่าจะมีส่วนช่วยให้ครัวเรือนสามารถบรรเทาค่าใช้จ่ายลงไปได้บ้าง ทั้งนี้ ค่าไฟฟ้าที่คาดว่าจะปรับสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อนนั้น ผลกระทบอาจจะลดลงในช่วงเดือนอื่นๆ ของปีนี้ที่ร้อนน้อยลง ซึ่งก็น่าจะทำให้ค่าไฟและความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลงตาม แต่ค่าอาหารซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า คาดว่าจะมีแนวโน้มยืนอยู่ในระดับสูงในช่วงที่เหลือของปี

มองไปข้างหน้า ภาวะโลกร้อน น่าจะส่งผลให้อุณหภูมิโลกมีความแปรปรวน และมีโอกาสที่ฤดูร้อนจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับธุรกิจก็มีแนวโน้มปรับมาให้ความสำคัญกับประเด็นความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนส่วนเพิ่ม ทำให้ราคาสินค้าและบริการต่างๆ อาจไม่สามารถปรับลดลงได้ง่าย ซึ่งก็จะส่งผลกระทบมายังค่าใช้จ่ายของครัวเรือนให้อาจมีแนวโน้มสูงขึ้น ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องปรับเปลี่ยนวิถีในการดำเนินชีวิตไปสู่ความรักษ์โลกมากขึ้นเพื่อบรรเทาค่าใช้จ่ายในระยะยาว ในขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจเองก็อาจต้องให้ความสำคัญกับการปรับประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับการปรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มุ่งสู่ความยั่งยืนเช่นกัน