หมอเตือนระวัง! แสงจ้าจากดวงอาทิตย์ ทําลายเยื่อประสาทตา เลนส์ตา กระตุ้นไมเกรน แนะสวมแว่นกันแดด

101

25 มี.ค. 66 – นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha” ระบุว่า แถมมากับร้อน คือ ปวดหัว

นอกจากความร้อน ยังมีเรื่องแสงสว่างจ้า ที่ควรระวัง คือ อาการปวดหัว โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคปวดหัวประจําไมเกรน (migraine) อยู่แล้ว

ไมเกรนเป็นสาเหตุสําคัญไม่ตํ่ากว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ของปวดหัวทั้งหมด จะมีอาการปวดรุนแรงขึ้นและถี่ขึ้นเนื่องจากแสงจ้า มีรังสี Ultraviolet (UV) ทั้งชนิดUVA และ UVB จะกระตุ้นให้ไมเกรนปะทุขึ้นมาได้

เชิงวิชาการอาจจะอธิบายจากการที่สมองส่วนท้ายทอย (Occipital Lobe) ซึ่งเป็นส่วนรับแสง ภาพของผู้ป่วยไมเกรนจะมีความไวกว่าปกติ นอกจากนั้น ยิ่งคนที่มีความสุขต่อการบริโภคขนมนมเนย ข้าวเหนียวมะม่วง ทุเรียน จนอ้วน (โดยดูจากดัชนีมวลกาย หรือขนาดรอบพุง) จะยิ่งมีโอกาสเป็นไมเกรนมากขึ้น

จากการศึกษาในวารสารปวดหัว (ปี 2553) ในประชากรของประเทศสหรัฐฯ จํานวน 21,783 ราย พบว่าคนอ้วนจะมีโอกาสเป็นไมเกรนได้มากกว่าคนปกติ ทั้งในผู้ชายผู้หญิง และคนที่เป็นไมเกรนยังถูกกระตุ้นด้วยอาหารบางชนิดอีกด้วย

ข้อที่พึงปฏิบัติคือ ระวังแสงจ้าจากดวงอาทิตย์ ทั้งที่สอดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง หรือเมื่อออกไปกลางแจ้ง ต้องสวมแว่นกันแดดไว้ตลอด แว่นกันแดดต้องมี คุณสมบัติตัดทั้งแสงจ้า รวมทั้งรังสี UVA และ UVB เนื่องจากถ้าตัดแสงอย่างเดียว รูม่านตาจะยิ่งขยายโตมากขึ้น เป็นโอกาสให้ได้รับรังสีมากขึ้นไปอีก ทําให้กระตุ้นไมเกรนรวมทั้งทําลายเยื่อประสาทตา เลนส์ตา

สําหรับในสถานที่ทํางาน จอคอมพิวเตอร์ต้องไม่จ้า จนเกินไป ไฟฟลูออเรสเซนท์เป็นอีกปัจจัย ที่ต้องระวังไม่ให้กะพริบ เพราะการกะพริบ จะยิ่งกระตุ้นให้ปวดไมเกรนเข้าไปอีก

อย่างไรเสียในคนที่อ้วน แล้ว ควรต้องลดนํ้าหนัก ถึงแม้ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าลดนํ้าหนักแล้วไมเกรนจะดีขึ้นหรือไม่ แต่ที่แน่ๆคือลดโอกาสเป็นหัวใจวาย อัมพฤกษ์ เบาหวาน

นอกจากนี้ ทุกครั้งที่ปวดไมเกรนต้องทบทวนว่า ไปรับประทานอาหารอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งแต่ละคน จะมีอาหารที่กระตุ้นไมเกรนไม่ เหมือนกัน จึงต้องคอยจดจํา หลีกเลี่ยง มิฉะนั้นต้องทานยาแก้ปวด อยู่รํ่าไป โดย เฉพาะยาแก้ปวดยิ่งแรงเท่าไหร่ หรือยาที่มีสาร Ergot (เช่น Cafergot) ถ้าใช้บ่อยเกิน 2-3 ครั้งขึ้นไปต่ออาทิตย์ จะยิ่งกระตุ้นให้ยิ่งปวดเข้าไปอีก และทําให้ต้องใช้ยาป้องกันการปวด ซึ่งต้อง รับประทานทุกวันเป็นเดือน และยาErgot มีอันตรายมหาศาล ถึงตาย ตัดแขนขา เพราะเส้นเลือดหด อยากให้ออกจากการใช้เสียด้วยซ้ำ