“บิ๊กโจ๊ก” นำทีมลงพื้นที่เชียงใหม่ ขยายผลปิดคดีค้าประเวณีผ่านทวิตเตอร์ และแก๊งจีนไลฟ์สดมีเพศสัมพันธ์
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมแถลงปิดคดีทางเพศ 2 คดี หลังจากในห้วงเวลาที่ผ่านมา ศพดส.ตร. ได้ดำเนินการปราบปรามการค้ามนุษย์ และการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศหลากหลายรูปแบบมาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนที่ผ่านมา ได้ตรวจสอบขยายผลจับกุมคดีเกี่ยวกับการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศในพื้นที่ ภ.5 2 คดี
โดยในกรณีที่ 1 เป็นคดีที่มีนายหน้าค้าประเวณีผ่านทางทวิตเตอร์ เมื่อประมาณเดือน ก.ค.65 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ TICAC ภ.5 ร่วมกับ บก.สอท.4 และ พม.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยมูลนิธิ OUR ได้บูรณาการร่วมกันตรวจสอบ กรณีพบการสร้างบัญชีทวิตเตอร์ และได้มีการโพสต์เสนอขายบริการทางเพศในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะจัดหาหญิงสัญชาติเมียนมามาบริการทางเพศ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนและตรวจสอบบัญชีจนทราบตัวผู้ใช้บัญชี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหา 1 ราย คือ นาง นานเกี๋ยงคำ อายุ 35 ปี สัญชาติเมียนมา โดยสามารถติดตามจับกุมได้ที่หอพักไม่มีชื่อ หมู่ 5 ต.แม่แรม อ.แม่ริมจ.เชียงใหม่
พร้อมช่วยเหลือหญิงที่ถูกพามาให้บริการทางเพศชาวเมียนมาได้ 5 คน มีอายุตั้งแต่ 19-26 ปี ตัวผู้ต้องหามีพฤติการณ์ในการเป็นนายหน้าในการขายบริการทางเพศ ผ่านทางโซเซียลมีเดีย คิดค่าบริการ 1,000 บาทนายหน้าได้ 200 บาท และตัวหญิงที่ให้บริการจะได้ 800 บาท คดีนี้ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม”
ส่วนกรณีที่ 2 เป็นคดีแก๊งคนจีนไลฟ์สดมีเพศสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 26 พ.ค.65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้มีการเข้าตรวจค้นรีสอร์ท 2 แห่ง ในพื้นที่ จ.เชียงราย ตรวจพบแก๊งคนจีน เช่าสถานที่ดังกล่าวในการไลฟ์สดมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอพจีน โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 14 คน รวมทั้งบุคคลต่างด้าวสัญชาติลาวอีก 30 คนและต่อมาเมื่อ 19 ต.ค.65 ได้ทำการขยายผลจนสืบทราบว่า ยังมีแก๊งคนจีนที่กระทำความผิดในลักษณะเดียวกันอีก โดยมีคนจีน 2 คนเป็นหัวหน้าแก๊ง คือ นางลีน่า และ นางโมโม่ สัญชาติจีน โดยมีการเช่าสถานที่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.ชลบุรี ในการถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์ และใช้นักแสดงเป็นคนไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน
ต่อมาได้สืบทราบว่า น.ส.ลีน่า และ น.ส.โมโม่ ได้แยกกันทำงาน และเช่าสถานที่ถ่ายทำแบ่งเป็น 2 จุด จึงเดินเข้าตรวจค้นและจับกุม ที่จุดแรก บ้านต้นเกว่น ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ พบผู้ต้องหา จำนวน 2 คน คือ นางเหวิน ลีน่า สัญชาติจีน เป็นหัวหน้าแก๊ง ทำหน้าที่คอยจัดการการถ่ายทอดสด จ่ายเงินให้นักแสดงและพากย์เสียงภาษาจีน และนายปิยะพงษ์ วงษ์สุวรรณ ทำหน้าที่เป็นล่าม นอกจากนี้ยังตรวจพบนักแสดงจำนวน 10 ราย โดยพบว่าเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ จำนวน 5 ราย
ส่วนอีกจุดหนึ่ง บ้านเลขที่ 72/17 หมู่ 4 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จากการเข้าตรวจค้น พบ ผู้ต้องหาจำนวน 3 คน คือ นางซิง เอ้อ หง หรือโมโม่ สัญชาติจีน เป็นหัวหน้าแก๊ง ทำหน้าที่คอยจัดการการถ่ายทอดสด จ่ายเงินให้นักแสดง และพากย์เสียงภาษาจีน นายสุวรรณ หรือไบรท์ เป็นผู้ช่วย และ น.ส.สรัลชนา หรือฉิง เป็นล่าม ตรวจพบนักแสดง จำนวน 9 ราย โดยพบว่าเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า18 ปี ซึ่งเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ จำนวน 5 ราย ซึ่งผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า หรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้, ร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหา จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก เพื่อผลิตหรือเผยแพร่สื่อลามก”
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศโดยมิชอบเป็นอีกคดีที่ในห้วงเวลาที่ผ่านมาเริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยมีเยาวชนตกเป็นเหยื่อให้กับกลุ่มแก๊งเหล่านี้รวมอยู่ด้วย ดังนั้น ศพดส.ตร. และชุดปฏิบ้ติการ TICAC จึงต้องมีการดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง 2 คดี ในวันนี้เป็นการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ต ทั้งในรูปแบบของการเสนอขายบริการทางเพศผ่านทางทวิตเตอร์ และการไลฟ์สดการมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอพจีน ซึ่งชุดปฏิบัติการ TICAC ได้บูรณาการร่วมกับหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น พม.จว. หรือภาคประชาสังคม ในการเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากการกระทำผิดดังกล่าว รวมทั้งสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด จากนี้จะยังมีการขยายผลการจับกุมความผิดลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศผ่านทางอินเตอร์เน็ตให้หมดไป.