ปศุสัตว์เชียงใหม่ แจงกรณีพบ “อหิวาต์แอฟริกาในหมู” ที่ อ.ดอยสะเก็ด

453

ปศุสัตว์เชียงใหม่ แจง! กรณีพบ “อหิวาต์แอฟริกาในหมู” ที่ อ.ดอยสะเก็ด

ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 เวลา 18.00 น. จากกรณีการนำเสนอข่าวการเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ในฟาร์มสุกรเกษตรกรพื้นที่ ต.ป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โดยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ให้สัมภาษณ์นักข่าวเกี่ยวกับการเกิดโรค อหิวาต์แอฟริกาในสุกรในพื้นที่ ต.ป่าป้อง และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เข้าควบคุมโรค ตามระเบียบกรมปศุสัตว์ และประกาศเขตโรคระบาดชั่วคราวในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตร ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรเกิดความหวาดกลัวการระบาดของโรคไปยังพื้นที่อื่นในพื้นที่ข้างเคียง

GUKsh0.jpg

กรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 น.สพ.อนุสรณ์ หอมขจร ปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากนายมงคล สิทธิรักษ์ ปศุสัตว์อำเภอสันทราย รักษาการปศุสัตว์อำเภอดอยสะเก็ด ว่าพบสุกรป่วยตายลักษณะอาการตามนิยามของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร จึงสั่งการให้นายสัตวแพทย์ กลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ เข้าดำเนินการตรวจสอบในฟาร์มสุกรดังกล่าวร่วมกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอดอยสะเก็ด เจาะเลือดสุกรที่เหลืออยู่ในฝูง ซึ่งมีอาการปกติ ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคเหนือตอนบน จ.ลำปาง แต่ผลตรวจเป็นลบต่อเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ซึ่งสามารถแปลผลได้ว่า สุกรไม่ได้รับเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือสุกรได้รับเชื้อแต่ยังไม่อยู่ในระยะที่มีการเพิ่มจำนวนเชื้อในเลือด (viremia) จึงตรวจไม่พบ รักษาการปศุสัตว์อำเภอดอยสะเก็ดจึงทำการทำบันทึกสั่งกัก ห้ามเคลื่อนย้ายสุกรในฟาร์มดังกล่าว และสุกรในฟาร์มที่อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร จากจุดเกิดโรคอีก 1 ฟาร์ม โดยห้ามเคลื่อนย้ายสุกร เป็นเวลา 30 วัน หลังจากนั้น วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 สุกรตัวที่ 2 มีการป่วย และตายลงอีก 2 วันถัดมา นายสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอดอยสะเก็ดได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบ พร้อมขอเจาะเลือดสุกรที่เหลืออีก 2 ตัว ตรวจซ้ำ แต่เกษตรกรปฏิเสธ ต่อมาในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 รับแจ้งว่า สุกรตัวที่ 3 ป่วยตาย และวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 เจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอดอยสะเก็ดจึงเข้าทำการเจาะเลือดสุกรที่เหลืออยู่ 1 ตัว ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลการตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกรโดยวิธี Real-time RT-PCR จึงดำเนินการแนะนำการทำความสะอาดคอก ฆ่าเชื้อโรค ทำลาย และฝังกลบสุกรอย่างถูกสุขลักษณะ ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ผลการควบคุมโรคเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอดอยสะเก็ด ลงพื้นที่ตั้งแต่ทราบว่ามีสุกรในพื้นที่ป่วยตายตัวแรก และใช้น้ำยาฆ่าเชื้อควบคุมโรค ทำตามระเบียบกรมปศุสัตว์อย่างเคร่งครัด สุกรที่ตายทุกตัวถูกฝังอย่างถูกสุขลักษณะ รอบพื้นที่เกิดโรคมีสุกรไม่มาก นอกจากนี้เดือนพฤศจิกายน จังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินกิจกรรมเชิงรุก ให้แต่ละอำเภอเฝ้าระวังการเกิดโรค โดยได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ตามนโยบายของกรมปศุสัตว์อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ไม่ก่อโรคในคนและสัตว์ชนิดอื่น แต่เป็นโรคที่ก่ออาการรุนแรงถึงแก่ชีวิตในสุกรและหมูป่า หากเกษตรกรพบสุกรป่วยตายผิดปกติ หรือสอบถามข้อมูล สามารถแจ้งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานปศุสัตว์อำเภอพื้นที่