(มีคลิป Video) ผู้บริหารคลินิกศัลยกรรมดังเชียงใหม่ ออกแจง กรณีโพสต์ฉาวบนโซเชียล ถูกเฟซบุ๊กอวตารนำภาพและข้อมูลเท็จแฉโจมตีจนเสียชื่อ พร้อมเตรียมนำหลักฐานเข้าแจ้งความ ตร. ยันคลินิกมีใบอนุญาตชัดเจน ตรวจสอบได้
วันที่ 14 ก.ย. 65 กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และข้อสงสัยของประชาชนและผู้ใช้โซเชียล เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้มีการโพสต์ภาพพร้อมข้อความวิจารณ์คลินิกชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยระบุข้อความในโพสต์ดังกล่าวว่า “คลินิกดังที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ เปิดคลินิกบังหน้าข้างหลังเจ้าของคลินิกร้อยไหมเอง ฉีดเอง! แถมมีผู้ช่วยแพทย์สวมรอยเป็นหมออีก! น่ากลัวมากก อันตรายมากนะคะ!!! เตือนชาวเชียงใหม่ถ้าไม่อยากเป็น พินอคคิโอ อย่าหาทำ” นอกจากนี้ยังได้มีการแปะลิงก์ไปยังโพสต์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคลินิกดังกล่าว ซึ่งหลังจากโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปมีกระแสโซเชียล ทำการแชร์ข้อมูลออกไปอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้เกิดเสียงพิพากษ์วิจารณ์ และสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้พบเห็น รวมไปถึงกลุ่มคนที่เคยใช้บริการคลินิกดังกล่าว และขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ขณะที่ล่าสุดในวันนี้ ทางผู้สื่อข่าวได้ทำการติดต่อสอบถามพร้อมทั้งเข้าพบกับทางผู้บริหารคลินิกดังกล่าวที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ โดยทราบว่า คลินิกแห่งนี้คือ “GE’ O Clinic” ตั้งอยู่ที่ 246 ถ.มหิดล ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเปิดเป็นคลินิกสุขภาพและความงามครบวงจร ซึ่งพบว่าคลินิกดังกล่าว ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ขณะที่ทางผู้บริหารทราบคือ นายคมเพชร อัยสูณ ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าสำรวจสถานที่ตั้ง พร้อมทั้งใบอนุญาตในการเปิดสถานคลินิกอย่างถูกต้อง รวมทั้งให้สัมภาษณ์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น
โดยทาง นายคมเพชร อัยสูณ ผู้บริหาร GE’ O Clinic บอกว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ตนได้ให้เพจชื่อดังเพจหนึ่งมารีวิวคลินิก แต่ต่อมาเมื่อมีการรีวิวออกไปก็มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบมาสร้างกระแส และใช้กระแสโซเชียลมาเป็นสื่อในการโจมตีคลินิก แต่กรณีที่เกิดขึ้นตนยืนยันว่าคลินิกของตนเป็นคลินิกที่เปิดขึ้นมาอย่างถูกต้อง และมีหลักฐานใบอนุญาตจากกระทรวงฯ ถูกต้องทุกอย่างโดยใช้ชื่อ GE’ O Clinic และเป็นสหคลินิก ที่ประกอบด้วย 2 อย่างคือ การดูแลแบบเวชกรรมแผนปัจจุบัน และแพทย์แผนไทย ที่มีตนเป็นผู้ดูแลโดยตรง และเปิดมาได้ประมาณ 7 ปี แล้ว
ทั้งนี้ในส่วนของการทำทุกอย่างก็มีแพทย์โดยตรงทั้งหมด แต่ข่าวที่ออกไปบอกว่าคลินิกของตนเป็นคลินิกเถื่อน ซึ่งตรงนี้ตน “ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด” เพราะมีการแสดงใบอนุญาตอย่างชัดเจน และที่ระบุว่าการทำศัลยกรรม ที่ระบุว่าตนเป็นคนทำนั้นก็ไม่ความจริง โดยภาพที่ถูกนำไปเผยแพร่นั้นเป็นภาพที่ตนไปเรียนสักคิ้ว แต่กลับเอามาใส่บอกว่าเป็นการทำศัลยกรรม ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริงทุกอย่าง โดยตนก็ประสบอุบัติเหตุมาได้ 4 ปี ทำให้มือข้างขวาที่ถนัด ไม่สามารถทำการศัลยกรรมให้ใครได้ ดังนั้นเรื่องที่มีการระบุว่าตนเป็นหมอศัลยกรรมจึงไม่ใช่ความจริงอย่างแน่นอน โดยตนเป็นเพียงผู้บริหารและผู้ดูแลเท่านั้น เมื่อมีลูกค้ามาใช้บริการก็จะติดต่อให้กับทางแพทย์ซึ่งทางคลินิกก็มีแพทย์ประจำที่มีใบอนุญาตครบถ้วน รวมถึงสถานที่ที่มีใบอนุญาตรับรอง จึงยืนยันได้ว่าสถานคลินิกของตนคงไม่ทำเรื่องที่ไม่ดีให้เกิดความเข้าใจผิดกับประชาชนและคนที่มาเข้าใช้บริการ
กรณีที่เกิดขึ้นนี้ สร้างความเสียหายให้กับทางคลินิก ทั้งความน่าเชื่อถือ และชื่อเสียงของคลินิก รวมทั้งทำให้ตนรู้สึกเครียดมาก เนื่องจากตนก็ไม่ทราบว่า บุคคลที่นำเรื่องดังกล่าวไปโพสต์ลงโซเชียล แถมยังใช้โปรไฟล์เฟซบุ๊กเป็นเฟสอวตารนั้น ต้องการอะไร หรือเป็นคนที่เสียหายหรือไม่ และเจ็บใจมากที่ผู้โพสต์ไม่ได้เกิดความเสียหาย แต่ทางคลินิกได้รับผลกระทบจากโพสต์ที่นำไปเผยแพร่อย่างมาก นอกจากนี้ภาพที่ออกไปก็เป็นภาพหน้าของตนโดยไม่มีการเซนเซอร์หรือปิดบังแต่อย่างใด และข้อมูลที่ลงไปก็ไม่ถูกต้อง ซึ่งในส่วนของเรื่องกฎหมายตนพร้อมที่จะให้มีการตรวจสอบทุกอย่าง และยืนยันว่าการให้บริการในคลินิกของตนเป็นแพทย์จริงๆ มีการวางใบทุกอย่าง รวมถึงสถานที่ประกอบการก็มีการวางใบ แสดงหลักฐานอย่างชัดเจน และเข้ามาดูแลเองโดยตรงทุกวัน
นายคมเพชร บอกอีกว่า ที่ผ่านมา หากเกิดความผิดพลาดในการให้บริการเล่นมีอาการแพ้ หรืออาการผิดปกติ ทางคลินิกก็มีการดูแลรับผิดชอบทั้งหมด และไม่เคยมีคดีที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งในส่วนของบุคคลที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นในโพสต์ก็อยากให้นำหลักฐานมายืนยันด้วย ส่วนเรื่องที่มีการระบุว่า ใบอนุญาตไม่ใช่ของจริง หรือไม่ใช่ของตน ก็สามารถมาตรวจสอบได้ เพราะมีการแสดงให้เห็นในสถานคลินิกอย่างชัดเจนที่ระบุตัวตนชัดเจนทั้งตน และแพทย์ที่ให้บริการ
ส่วนในเรื่องที่เกิดขึ้นในโพสต์ที่สร้างความเสียหายให้กับคลินิก ขณะนี้ตนได้พูดคุยกับทางทนาย และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในวันนี้จะมีการรวบรวมหลักฐานเพื่อเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อยืนยันว่าข้อมูลที่ถูกนำไปเผยแพร่บนโซเชียลนั้นเป็นของมูลเท็จ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และหากเป็นเรื่องจริงตนก็คงปิดคลินิกไปแล้ว รวมถึงอยากทราบต้นสายปลายเหตุด้วยว่าคนที่โพสต์เรื่องนี้เป็นใคร และต้องการอะไร โดยทางตนก็ได้มีการทักไปหาเจ้าของเฟซบุ๊กแต่ก็ไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด เพราะตอนนี้ทางคลินิกได้รับความเสียหายมาก รวมทั้งลูกค้าและผู้ใช้บริการก็เกิดความกังวล จึงอยากให้เรื่องนี้มีความกระจ่างมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ ตนได้มีการโพสต์ลงเพจของคลินิก ที่แจ้งว่าโพสต์ดังกล่าวเป็นข่าวปลอม แต่ต่อมาต้องลบโพสต์ออกไป เนื่องจากว่าตนได้ไปปรึกษากับผู้ใหญ่ และบอกให้ลบโพสต์ออกก่อน เนื่องจากยังไม่สามารถระบุต้นตอของโพสต์ดังกล่าวได้อย่างชัดเจน และอยากให้ไปติดต่อกับทางตำรวจก่อน แต่จากการที่เมื่อวานเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์มาอย่างมาก ตนจึงอยากชี้แจงกลับไปบ้าง ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นไม่เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด ทั้งในรูปแบบที่นำไปลง และเรื่องราวที่โยงไปเกี่ยวข้อง ที่หลายๆ ตนยืนยันได้ว่าไม่เป็นเรื่องจริง รวมทั้งบางภาพก็เป็นภาพเก่าประมาณ 4-5 ปี แล้ว ที่ไม่ใช้คลินิกแห่งนี้ อีกทั้งบางภาพก็นำมาจากที่อื่น แล้วนำมาเชื่อมโยงให้เป็นเรื่องเดียวกัน
ทั้งนี้จากกรณีที่เกิดขึ้น ทางผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊กต้นตอโพสต์ดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงของเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ทางเจ้าของโพสต์ไม่ขอให้คำตอบ และข้อมูลแต่อย่างใด
