เข้ามอบตัวแล้ว สองหนุ่มบุกทวงหนี้นอกระบบป้าขายอาหารตามสั่ง ใช้กาวหยอดรูกุญแจ เขียนข้อความหยาบคายประจาน ยืนยันแสดงความบริสุทธิ์ใจ ลูกหนี้ยืมเงินมีหลักฐานทำสัญญาผ่านไป 5 วัน เบี้ยวไม่คืนเงินจนสุดท้ายต้องติดตามทวง

1816

สองหนุ่มบุกทวงหนี้นอกระบบ ป้าขายอาหารตามสั่ง เข้ามอบตัวแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันลูกหนี้ยืมเงินมีหลักฐานทำสัญญา แต่ผ่านไป 5 วัน เบี้ยวไม่คืนเงินจนสุดท้ายต้องติดตามทวงตามที่อยู่บัตร ปชช. เผยแค่ยึดข้าวของมา ต้องการให้ลูกหนี้เอาเงินมาคืน

วันที่ 25 ก.ค. 65 ความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์แก๊งเงินกู้นอกระบบออกทวงหนี้อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยมีชายวัยรุ่นสองคนบุกไปทวงหนี้ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ แต่ไม่พบลูกหนี้และไม่มีใครอยู่บ้าน เมื่อเห็นประตูรั้วล็อกกุญแจไว้จึงใช้กาวหยอดรูกุญแจ พร้อมเขียนข้อความหยาบคายประจานติดที่ป้ายหน้าบ้านและยังปีนข้ามรั้วเข้าไปในบ้านยึดทรัพย์สินทั้ง หม้อนึ่ง ถังแก๊สปิกนิ กระทะ และ ไฟแช็กจุดแก๊ส หลบหนีไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยกล้องวงจรปิดของบ้านใกล้เคียงบันทึกภาพขณะชายวัยรุ่นทั้งสองขี่จักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้านที่เกิดเหตุ

blank

โดยเรื่องที่เกิดขึ้น นางสาวหน่อย ( นามสมมุติ ) ลูกสาวเจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจและหวาดกลัว เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.วันที่ 22 ก.ค.65 โดยทราบว่าผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์คนละคันมาด้วยกัน 2 คน เพื่อติดตามทวงหนี้กับญาติของตัวเองที่ทางบ้านอนุญาตให้นำชื่อเข้าเป็นผู้อาศัยในทะเบียนบ้านหลังนี้ เพื่อรับสิทธิจากระบบหลักประกันสุขภาพเท่านั้น แต่ไม่ได้พักอาศัยจริงและไม่ทราบว่าพักที่ใด ซึ่งทราบว่าญาติรายนี้ได้ไปกู้หนี้นอกระบบดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อเดือน จากเจ้าหนี้หลายรายนำไปเป็นทุนหมุนเวียนเปิดร้านอาหาร แต่ขาดทุนเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ จึงผิดนัดชำระหนี้

blank

หลังจากเกิดเหตุดังกล่าวตัวเองได้พาแม่พร้อมหลักฐานกล้องวงจรปิดจากจุดใกล้เคียงเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรสันทราย เพราะเกรงว่าแก๊งทวงหนี้จะย้อนกลับมาข่มขู่คุกคามอีก ปรากฏว่าช่วงกลางดึกหลังจากที่แจ้งความแล้ว แก๊งทวงหนี้ได้ย้อนกลับมาที่บ้าน มาตะโกนเรียกและนำทรัพย์สินที่เอาไปและเสียหายแล้วกลับมาคืน โดยกล่าวแต่เพียงว่าขอโทษเท่านั้น แต่ทุกคนในบ้านไม่กล้าออกไปพูดคุยเจรจาด้วย เพราะกลัวไม่ปลอดภัย

blank

ขณะที่ล่าสุดช่วงสายวันนี้ (25 ก.ค.65) ชายวัยรุ่นอายุ 32 ปี และ 17 ปี แก๊งทวงหนี้ที่ปรากฏในคลิปภาพ เข้ามอบตัวกับ ...วัฒนา แดนราษี พนักงานสอบสวน สภ.สันทราย .เชียงใหม่ โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ร่วมกันบุกรุกเคหสถาน ร่วมกันลักทรัพย์ และ ร่วมกันทวงหนี้ที่เข้าข่ายข่มขู่หรือกระทำการอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558

จากการสอบสวนทั้งสองสารภาพว่าเป็นบุคคลในคลิปภาพที่ไปก่อเหตุที่บ้านหลังดังกล่าวจริง โดยบอกว่าก่อนหน้านี้ลูกหนี้ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจำนวน 10,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 โดยลูกหนี้ได้เซ็นสัญญากู้ยืมเงินพร้อมระบุยินยอมให้ยึดทรัพย์สินหากผิดนัดชำระหนี้ โดยหลังจากมอบเงินกู้ให้ไป ลูกหนี้ได้จ่ายเงินให้วันละ 500 บาทตามที่ระบุไว้ติดต่อกันมา 5 วัน แต่วันที่หกหลังจากนั้นก็ไม่ยอมจ่ายและหายตัวไป โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ พวกตนเองจึงตามไปทวงหนี้ที่บ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านตามที่อยู่บัตรประชาชนที่ลูกหนี้ให้ไว้ โดยลูกหนี้ยังเคยบอกด้วยว่าอาศัยอยู่บ้านหลังนี้และทรัพย์สินในบ้านก็เป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ทั้งหมด

โดยทางด้านหนุ่มหนึ่งในบุคคลที่ไปทวงหนี้ เปิดใจด้วยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ตนไม่ได้มีเจตนาเข้าไปลักขโมยทรัพย์สินนำไปขายหรือยึดไปเป็นประกันขัดดอกแต่ยึดไว้เพราะต้องการให้ลูกหนี้ติดต่อกลับ มาเจรจาและจ่ายหนี้ แต่ยอมรับว่าที่ทำไปอาจดูรุนแรง เป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และ ไม่เคยมีเจตนาก่อความรุนแรงหรือทำร้ายใคร

blank

หลังจากแจ้งข้อหาพนักงานสอบสวนได้นำตัวชายอายุ 32 ปี ส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ตามข้อหา ส่วนเยาวชนอายุ 17 ปี ได้ส่งตัวไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ ตามกระบวนการทางกฎหมาย

ด้านชุดสืบสวน สภ.สันทราย เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งสองเป็นวัยรุ่นมาจากจังหวัดทางภาคอีสาน เดินทางรับงานและมีพฤติกรรมทวงหนี้ลักษณะนี้มาหลายจังหวัด ส่วนป้าลูกหนี้ทราบว่าได้กู้ยืมเงินนอกระบบหลายราย มีเจ้าหนี้ทั้งหมด 17 ราย ยอดเงินกู้รวมประมาณ 200,000 บาท โดยทราบว่าเป็นการกู้ยืมมาจ่ายให้กับเจ้าหนี้รายก่อน ๆ เพราะหมุนเงินไม่ทัน จนกลายเป็นดินพอกหางหมู ต้องกู้ยืมรายใหม่มาเรื่อย ๆ

ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านหลังดังกล่าว แต่ไม่มีใครอยู่บ้าน มีแต่เพื่อนบ้านที่มาเล่าให้ฟัง ยืนยันว่าลูกหนี้ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้จริง แต่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเพื่อใช้สิทธิรักษาพยาบาล 30 บาท พร้อมบอกว่ารู้สึกตกใจเพราะที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

ขณะที่ทีมข่าวไปตรวจสอบที่ร้านอาหารของลูกหนี้ที่อยู่ใกล้กับบ้านหลังเกิดเหตุ พบว่าปิดร้านมานานหลายวันแล้ว โดยญาติของลูกหนี้ บอกว่า หลังจากปิดร้านก็ติดต่อไม่ได้อีกเลยและที่ผ่านมาไม่ทราบมาก่อนว่าไปกู้ยืมเงินนอกระบบมามากมายขนาดนี้ และ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รู้สึกหวาดกลัวและขอให้แก๊งทวงหนี้เลิกมาที่บ้านอีกเพราะคนที่เป็นลูกหนี้ไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนี้