ซูเปอร์โพล เผยผลโหวตนอกสภา ชี้อภิปรายครั้งนี้ไม่มีอะไรใหม่ ประชาชนวางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ทำงานต่อมากสุด

466

ซูเปอร์โพล เผยผลโหวตนอกสภา ชี้อภิปรายครั้งนี้ไม่มีอะไรใหม่ ประชาชนวางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ทำงานต่อมากสุด

รัฐมนตรีคนไหนรอด เสียงโหวตนอกสภา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อํานวยการสํานักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผล สํารวจ เรื่อง รัฐมนตรีคนไหนรอด เสียงโหวตนอกสภา กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดําเนิน โครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จํานวน 2,175 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 22 – 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา

พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 83.7 รู้อยู่แล้วว่าจะอภิปรายอะไร ไม่มีอะไรใหม่ โจมตีกัน เสียดสีกันทาง การเมืองและสถาบัน หวังทําลายความน่าเชื่อถือศรัทธาของคนไทย หาเสียงก่อนการเลือกตั้ง ในขณะที่ ร้อยละ 70.9 ระบุ มีแต่สาดโคลน เอาเรื่องส่วนตัวมาโจมตี เหมือนดูละคร น้ําเน่า ไม่ได้ประโยชน์ ร้อยละ 69.6 ระบุ เห็น ฝ่ายค้านบางคนอภิปรายได้ดี รัฐบาลควรนําไปแก้ไข ร้อยละ 64.3 ระบุ เห็นชัดการเมืองไทย และหลัก ประชาธิปไตยไทย ถูกแทรกแซงจากกลุ่มอํานาจผลประโยชน์และคนต่างประเทศ ร้อยละ 53.6 ระบุอื่น ๆ เช่น พรรคเล็ก พรรคใหญ่ต่อรองผลประโยชน์ มีทั้ง ดาวร่วง ดาวรุ่ง ไร้ค่ายสังกัด ประชาชนรู้ทัน เป็นต้น

ผลสํารวจพบด้วยว่า รัฐมนตรีที่ประชาชนวางใจให้ทํางานต่อ อันดับแรกคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร้อยละ 61.1 รองลงมาคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รอง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร้อยละ 59.2 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 58.7 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร้อยละ 53.2 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร้อยละ 52.1 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร้อยละ 51.9 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงการคลัง ร้อยละ 51.4 นายสุชาติ ชมกลิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานร้อยละ 50.8 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 50.5 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 50.3 และ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์ ร้อยละ 50.3 เท่ากัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงความต้องการของประชาชนต่อการปรับคณะรัฐมนตรี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อย ละ 69.1 ระบุ ควรปรับคณะรัฐมนตรี หาคนเก่งมาร่วมงานแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องและความเดือดร้อนของ ประชาชนได้ดีกว่า ในขณะที่ ร้อยละ 30.9 ระบุ ไม่ควรปรับ เพราะ ทํางานดีอยู่แล้ว ปรับไปก็เท่านั้น ไม่มี ประโยชน์ ยิ่งเกิดปัญหาขัดแย้งแก่งแย่งตําแหน่ง ใครจะเป็นอะไรไม่เกี่ยวกับชีวิต เป็นต้น

ที่น่าสนใจคือ 5 อันดับแรก คุณลักษณะเฉพาะของบุคคลสําคัญที่ประชาชนต้องการให้เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า ส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 55.8 ระบุ เป็นชาย สูงวัย ซื่อสัตย์ ไม่โกงบ้านโกงเมือง เด็ดขาด ปกป้องสถาบันเสา หลักของชาติ มีผลงาน มากประสบการณ์ เคยผ่านการเป็นผู้นําสูงสุดในอาชีพ อดทน คุมความขัดแย้งของคนใน ชาติได้ รับฟังความเห็นของทุกฝ่าย นานาประเทศยอมรับ รองลงมาคือ ร้อยละ 54.6 ระบุ เป็นชาย อดีตนักธุรกิจ นักบริหาร มีผลงานประสบความสําเร็จทั่วโลกยอมรับ มากประสบการณ์การเมือง อดทน จิตใจดีช่วยเหลือคนตัวเล็กตัวน้อย กล้าเปลี่ยนแปลง กล้าทํา มีความสามารถแก้วิกฤตต่าง ๆ ได้ ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจและสังคม เด็ดขาดเมื่อ ต้องเด็ดขาด มีจุดยืนปกป้องสถาบันเสาหลักของชาติ

อันดับสามคือ ร้อยละ 51.9 เป็นชาย สูงวัย มีประสบการณ์ กล้าทํา แก้ปัญหาใหญ่ ๆ ปราบปรามอิทธิพล เถื่อน แก้ต้นตอปัญหาทํากิน มีบารมีเครือข่าย คอนเนคชั่น คุมความขัดแย้งของคนในชาติ ปกป้องสถาบันเสาหลัก ของชาติ อันดับสี่คือ ร้อยละ 39.4 ระบุ เป็นชาย คนรุ่นใหม่ วิสัยทัศน์กว้างไกล โลกเสรีประชาธิปไตย พูดจาดีน่า ฟัง มีเหตุผล เคยเป็นนักธุรกิจ และอันดับห้า คือ ร้อยละ 24.8 ระบุ เป็นหญิง คนรุ่นใหม่ อายุน้อย แต่ มีฐานะ มี ตระกูลแกนนําการเมือง ตั้งใจจริงจะพัฒนาประเทศให้เจริญ มุ่งมั่นรวบรวมนักการเมืองเป็นครอบครัวเดียวกัน

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า รัฐมนตรีที่รอดจากเสียงโหวตนอกสภาไว้วางใจให้ทํางาน กลุ่มรัฐมนตรีในสามอันดับแรกที่ประชาชนวางใจและที่แตกต่างจากผลโหวตในสภาคือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ที่ขึ้นมาเป็นอันดับสี่ และที่น่าพิจารณาคือ สี่รัฐมนตรีในผลสํารวจครั้งนี้ที่รอดครึ่งหนึ่งเฉียดฉิว

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ที่เด่นในโพลนี้คือ เมื่อไม่บอกชื่อว่าคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี คือใคร เพื่อลด อคติเพราะชื่อคน ผลสํารวจที่พบคือ มีหลายคุณลักษณะของผู้ที่ประชาชนต้องการให้เป็นนายกรัฐมนตรีตรงใจมี ความสอดคล้องตรงกัน เช่น เป็นชาย มากประสบการณ์ มีผลงานความสําเร็จบริหารจัดการได้ดี นานาประเทศทั่ว โลกยกย่องยอมรับ เช่น แก้วิกฤตโควิด มีความกล้าเปลี่ยนแปลง ช่วยเหลือประชาชน เด็ดขาด อดทน ทนแรงเสียด ทาน มีจุดยืนปกป้องสถาบันเสาหลักของชาติ ควบคุมความขัดแย้งของคนในชาติได้ ที่พอจะนําไปคาดเดากันได้ว่า นายกรัฐมนตรีคนต่อไปน่าจะเป็นใครในเสียงโหวตนอกสภา

blank