ร้านยอมคืนค่าเสียหาย! เด็กพิงตุ๊กตาเทเลทับบี้ล้ม หลังทัวร์ลงหนัก ชาวเน็ตตั้งข้อสังเกตนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เคยเกิดเห็นการณ์แบบนี้มาแล้วหลายครั้ง
จากกรณีที่ไวรัลเต็มโลกออนไลน์ เด็กชายเผลอพิงตุ๊กตาเทเลทับบีราคากว่า 2 แสนบาท ล้มแตกหักคาร้านของเล่น ทำเอาคุณแม่ช็อกต้องจ่ายเงินค่าเสียหาย นั้น
>> เด็กชายเผลอพิงตุ๊กตาเทเลทับบีราคากว่า 2 แสนบาท ล้มแตกหักคาร้านของเล่น ทำเอาคุณแม่ช็อกต้องจ่ายเงินค่าเสียหาย
ล่าสุดเพจ “Pal Li – เพจพี่แป๋ว กินเที่ยว ฮ่องกง สิงคโปร์” ได้โพสต์ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวโดยระบุว่า ข่าวใหญ่สุดๆ ในฮ่องกงเมื่อวานนี้และเป็นไวรัลมาถึงสิงคโปร์และทั่วโลกเลย เผื่อใครยังไม่รู้ จะขอเล่าให้ฟัง ข่าวบอกว่า เหตุเกิดที่ร้านขายของเล่น ชื่อ KK Plus บนห้าง Langham Place (Mong Kok)โดยภาพที่แพร่กันในเนต เกิดจากแม่ของเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งได้เล่าว่า ลูกชายวัย 5 ขวบของตน ทำหุ่นเทเลทับบี้ขนาดใหญ่ที่ตั้งโชว์อยู่ ล้มลงมาแตกกระจาย และสื่งที่พนักงานบอกเป็นคำแรก คือ เด็กเตะหุ่นดังกล่าว จึงล้มลงพ่อแม่ได้ยินอย่างนั้น ก็ยึดคำของพนักงาน ทั้งที่ไม่รู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นและขอเจรจาค่าเสียหาย เพราะราคาที่ติดไว้ คือ HK$52,800! (~ ราว SG$9,200 หรือ 230,000 บาท) จนในที่สุดแล้ว ก็จ่ายไป HK$33,600 (~ ราว SG$5,900 หรือ 146,000 บาท)
ต่อมา เมื่อเช็คกล้องวงจรปิด จึงรู้ว่า หนูน้อย
#ไม่ได้เตะหุ่นเลย เพียงแค่ยืนพิงเบาๆ เท่านั้น หุ่นก็ล้มลงแล้ว
เมื่อชาวเนตฮ่องกง เห็นคลิปเข้า เลยตั้งข้อสงสัยว่า #ถูกร้านวางกับดักไว้รึเปล่า? ดีนะ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และท้ายที่สุด คือ #ใครควรจะจ่ายค่าเสียหายนี้? พ่อของเด็กให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุ เมื่อวานว่าเพิ่งเห็นคลิปและรู้ว่า จริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น และวิจารณ์คำพูดของพนักงานว่า สร้างความเข้าใจผิดในเรื่องนี้ พร้อมทั้งตั้งคำถามไปที่ร้านเรื่อง #ขอคืนเงินค่าเสียหาย เพราะ #ควรรับผิดชอบร่วมกันหรือไม่ เพราะร้านก็น่าจะทำเชือกกั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
ต่อมา ร้าน KK Plus ได้ออกมาแถลงผ่านทางเฟซบุ๊กว่า หุ่นตัวดังกล่าว ได้ตั้งไว้ตั้งแต่ พ.ย. แล้ว และไม่เคยเกิดเหตุการณ์ใดๆ ส่วนค่าเสียหาย เป็นเรื่องที่ตกลงกัน และพ่อแม่เด็กก็เป็นคนเสนอให้เอง
อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดการถกเถียงกันในวงกว้าง บริษัทแม่ คือ Kidsland International ก็ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมออกมาขอโทษครอบครัวของเด็ก และ #คืนค่าเสียหายทั้งหมด (HK$33,600) ให้ด้วย
พ่อของเด็กไม่ติดใจคำแถลงนี้ แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่ยอมรับของเล่นจากทางร้าน เพื่อเป็นของขวัญให้ลูกชาย เพราะไม่ได้จะหาผลประโยชน์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ดี มีชาวเนตคอมเมนท์ไว้ว่า เหตุการณ์แบบนี้ เกิดขึ้นเป็นครั้งที่4แล้ว จึงถือเป็นกับดักของทางร้านหรือไม่? แต่ทางบริษัทขอไม่ให้ความเห็นต่อคอมเมนท์นี้ และไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ด้วย