พาณิชย์ เผยของแพงดันเงินเฟ้อ เม.ย.65 เพิ่มขึ้น 4.65% รับมีสินค้า 279 รายการทยอยขึ้นราคา คาดแนวโน้มเดือน พ.ค. ยังสูงต่อ

171

พาณิชย์ เผยของแพง ดันเงินเฟ้อ เม.ย.65 เพิ่มขึ้น 4.65% รับมีสินค้า 279 รายการทยอยขึ้นราคา คาดแนวโน้มเดือน พ.ค. ยังสูงต่อ หลังรัฐลอยตัวดีเซลและก๊าซหุงต้มยังขยับขึ้น กระทบต้นทุนการขนส่งและการผลิตสินค้า

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 65 นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนเม.ย.2565 เท่ากับ 105.15 เทียบกับมี.ค.2565 เพิ่มขึ้น 0.34% เทียบกับเดือนเม.ย.2564 เพิ่มขึ้น 4.65% ถือเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง จากที่เคยสูงขึ้นในเดือนก.พ.และมี.ค.ที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 13 ปี เนื่องจากฐานปีก่อนสูง ส่วนเงินเฟ้อรวม 4 เดือนปี 2565 (ม.ค.-เม.ย.) เพิ่มขึ้น 4.71% และเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออก ดัชนีอยู่ที่ 102.57 เพิ่มขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.2565 และเพิ่มขึ้น 2.0% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.2564 และรวม 4 เดือนเพิ่มขึ้น 1.58%

สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น มาจากการสูงขึ้นของสินค้าในกลุ่มพลังงาน เพิ่ม 21.07% ส่งผลให้สินค้าในหมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร เพิ่ม 10.73% โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง เพิ่ม 29.74% หมวดเคหสถาน เพิ่ม 0.98% มาจากการสูงขึ้นของค่ากระแสไฟฟ้า และก๊าซหุงต้มที่สิ้นสุดมาตรการตรึงราคาและเริ่มปรับราคาแบบขั้นบันได 3 ครั้ง ตั้งแต่เม.ย.-พ.ค.2565 และยังมีการสูงขึ้นของสินค้ากลุ่มอาหาร 4.83% เช่น ไข่ไก่ เนื้อสุกร ไก่สด ผักสดบางชนิด น้ำมันพืช อาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟ/ชา (ร้อน/เย็น)) รวมถึงสินค้าทำความสะอาด (น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก น้ำยารีดผ้า) ของใช้ส่วนบุคคล (แชมพู ยาสีฟัน สบู่ถูตัว) เนื่องจากหมดโปรโมชันลดราคา แต่ราคาสินค้ายังไม่เกินช่วงแนะนำ

อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าที่จำเป็นอีกหลายรายการที่ราคาปรับลดลง เช่น ข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ลด 3.64% ผลไม้สดบางชนิด เช่น ส้มเขียวหวาน มะม่วง กล้วยหอม ลด 1.05% เครื่องนุ่งห่ม เช่น กางเกงขายาวบุรุษ เสื้อยืดสตรีและบุรุษ ลด 0.17% และการศึกษา ลด 3.14%

ทั้งนี้ ในเดือน เม.ย. 65 มีสินค้าที่ราคาสูงขึ้น 279 รายการ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง เนื้อสุกร อาหารกลางวัน (ข้าวราดแกง) กับข้าวสำเร็จรูป ค่ากระแสไฟฟ้า ก๋วยเตี๋ยว อาหารเช้า มะนาว ไก่สด เป็นต้น สินค้าไม่เปลี่ยนแปลง 59 รายการ เช่น ค่าโดยสารรถไฟ เครื่องแบบอุดมศึกษา ค่าตรวจโรคคลินิกเอกชน ค่าเบี้ยประกันภัยรถ ค่าเบี้ยประกันคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พรบ.) ค่าภาษีรถยนต์ประจำปี และราคาลดลง 92 รายการ เช่น ข้าวสารเหนียว ข้าวสารเจ้า ต้นหอม ขิง ถั่วฝักยาว ค่าธรรมเนียมการศึกษา ผักชี มะม่วง ค่าเช้าบ้าน

นายรณรงค์กล่าวว่า แนวโน้มเงินเฟ้อเดือน พ.ค. 65 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และการเลิกตรึงราคาดีเซล ที่ปล่อยให้ขึ้นแบบขั้นบันได จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งและการผลิตสินค้า และยังมีการสูงขึ้นของก๊าซหุงต้ม รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอาหารสดและอาหารสำเร็จรูป ที่ยังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบ และยังมีผลกระทบจากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์โลก มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และพันธมิตร และการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงความไม่แน่นอนของสภาพอากาศ ยังคงเป็นปัจจัยที่จะส่งผลให้เงินเฟ้อของประเทศสูงขึ้นได้ในระยะต่อไป ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

“กระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อทั่วไปของไทย ปี 2565 จะเคลื่อนไหวในกรอบ 4.0-5.0% ค่ากลางอยู่ที่ 4.5% ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจะมีการทบทวนอีกครั้ง”นายรณรงค์กล่าว