สิ้นสุดการรอคอยกว่า 4 ปี! ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ส่งมอบบ้านพัก 45 หลัง คืนให้ธนารักษ์ หลังเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพขับเคลื่อนมานา พร้อมย้ำจุดยืนต้องรื้อถอนทั้งหมด จับตาอาคารชุดอีก 9 หลังครบกำหนดส่งคืนในอีก 4 เดือน
วันนี้ (27 เม.ย.65) นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ พร้อมด้วยคณะผู้ติดตาม และกลุ่มตัวแทนเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้ร่วมกันลงพื้นที่บ้านพักข้าราชการตุลาการในพื้นที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 จ.เชียงใหม่ และส่งมอบอย่างเป็นทางการ ระหว่าง นางอารีย์ เตชะหรูวิจิตร ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 , อธิบดีกรมธนารักษ์ และ ตัวแทนจากเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ภายหลังการเคลื่อนไหวเรียกร้องของกลุ่มภาคประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ในนามเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ในการขอคืนพื้นที่ป่าจากโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการในพื้นที่ศาลอุทธรณ์ ที่ใช้ความพยายามมานานเกือบ 4 ปีเต็ม
โดยในวันนี้ถือเป็นความสำเร็จของภาคประชาสังคม ที่ทาง นายประภาส คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ ได้เข้ารับมอบพื้นที่ 85 ไร่ และ บ้านพักทั้งหมด 45 หลัง จากตัวแทนศาลอุทธรณ์ภาค 5 โดยมีการส่งมอบกุญแจบ้านทุกหลังให้กับกรมธนารักษ์เข้าไปดูแลรับผิดชอบ ตามมติคณะกรรมการการแก้ไขปัญหาบ้านพักตุลาการจังหวัดเชียงใหม่ ที่ตั้งขึ้นจากคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เป็นการเข้ามาแก้ไขปัญหา และกรณีที่เป็นประเด็นระหว่างศาลอุทธรณ์ภาค 5 และในส่วนที่พักสำหรับข้าราชการตุลาการ ที่ทางกรมธนารักษ์กับหน่วยงานเกี่ยวข้องก็ได้มีการพยายามที่จะแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง จนในวันนี้ได้มีข้อยุติว่า ทางสำนักงานศาลยุติธรรม โดยศาลอุทธรณ์ภาค 5 จะส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวให้กับทางกรมธนารักษ์ ตามขั้นตอนระเบียบราชการ แล้วหลังจากนั้นทางกรมธนารักษ์ก็จะได้มีการมอบให้ทางหน่วยทหารเข้ามาดำเนินการ
โดยพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นพื้นที่ในการดูแลของกองทัพบกมาก่อนแล้วทางสำนักงานศาลยุติธรรมได้ดำเนินการก่อสร้างโดยความยินยอมของกองทัพบก และทางกรมธนารักษ์ก็อนุญาตตามขั้นตอน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายที่ราชพัสดุ แต่เมื่อเกิดประเด็นขึ้นมา ในการขอเวียนคืนให้เป็นป่าสภาพเดิม และหลังจากมีการดำเนินการมากันอย่างต่อเนื่องจนในวันนี้มีข้อยุติแล้วว่า ทางสำนักงานศาลยุติธรรม โดยศาลอุทธรณ์ภาค 5 จะส่งมอบให้กับทางกรมธนารักษ์ โดยธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ จะเป็นผู้รับมอบ และหลังจากนั้นก็จะมีการดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมนุมในพื้นที่ว่าจะมีการแก้ไขดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยมีคณะกรรมการระดับจังหวัดเป็นผู้ดูแล
ในส่วนของครุภัณฑ์ ที่มีการรับมอบมาจะมีการดำเนินการอย่างไรนั้น จะต้องมีการตรวจสอบว่ามีจำนวนเท่าไหร่ และมีอะไรบ้าง หลังจากนั้นก็จะดำเนินการตามระเบียบ และพิจารณาว่าหน่วยใดเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง และหากหน่วยราชการใดต้องการนำไปใช้ประโยชน์ก็จะมีการดำเนินการต่อไป และส่วนไหนที่ไม่มีความจำเป็นที่ทางราชการจะนำไปใช้ประโยชน์ก็จะมีการจำหน่ายออกไป ตามระเบียง
อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของบ้านทั้ง 45 หลัง จะมีการปล่อยทิ้งไว้ หรือดำเนินการรื้อถอนหรือไม่นั้น ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการระดับจังหวัด ที่มีการตั้งขึ้นมาเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ ที่มีการเรียกร้อง โดยต้องทำให้สมประโยชน์กับทุกฝ่าย และในส่วนของอาคารคอนโดทั้ง 9 หลัง ที่มีการระบุว่าจะต้องดำเนินการคืนให้ จะมีการดำเนินการอีกครั้งในเฟสต่อไป ซึ่งในส่วนของวันนี้ พื้นที่จำนวน 85 ไร่ ที่เป็นส่วนของบ้านพักทั้งหมด ทางกรมธนารักษ์จะมารับมอบในส่วนนี้ก่อน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของจุดยืนที่มีการเรียกร้องให้มีการรื้อถอนอาคารออกไปนั้น รายละเอียดจะอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการระดับจังหวัด ที่มีเครือข่ายอยู่ในคณะกรรมการชุดนี้ด้วย ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ต้องการให้สอดคล้องกับประโยชน์ และความต้องการของพี่น้องประชาชนในจังหวัด โดยจะรื้อถอน หรือจะดำเนินการอย่างไรนั้นก็จะมีการหารือกันอีกครั้ง
ส่วนทางด้าน นายธีรศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงาน เครือข่ายขอคืนผืนป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า จากการดำเนินการมาเป็นระยะเวลานานร่วม 4 ปี ภายหลังจากที่กลุ่มเครือข่ายฯ ได้ออกมาขับเคลื่อนเดินขบวนเมื่อวันที่ 29 เม.ย.61 และอีกไม่กี่วันจะครบ 4 ปีเต็ม จนมาถึงวันนี้ ทางเครือข่ายฯ รู้สึกยินดีและขอบคุณทางศาล กับกรมธนารักษ์ ที่ได้รับมอบพื้นที่คืนมา แม้ว่าจะเป็นในส่วนพื้นที่ด้านบน โดยขั้นตอนต่อไปอีกประมาณ 1 เดือน ทางเครือข่ายฯ ก็จะเข้ามาดำเนินการปลูกป่า คือช่วงประมาณต้นเดือน มิ.ย.นี้ ร่วมกับทางมวลชน และมีพิธีร้องขวัญดอยสุเทพ ที่อย่างน้อยได้พื้นที่ดังกล่าว พร้อมบ้าน 45 หลัง
และในส่วนของคำถามที่ว่า จะมีการรื้อถอนหรือไม่นั้น ความจริงทางมติของเครือข่ายคือการขอให้รื้อบ้านพักศาลฯ เท่านั้น ตามที่ได้มีการประกาศไว้แล้ว แต่ยังติดขั้นตอนทางกฎหมาย แต่ในตอนนี้อาคารทั้งหมด อยู่ในมือของกรมธนารักษ์แล้วก็จะมีกติกาและมีมติของคณะกรรมการว่าให้รื้อตามขั้นตอนกฎหมาย แต่หากขั้นตอนกฎหมายรื้อไม่ได้จริงๆ ทางเครือข่ายจะฟ้องศาลปกครอง หรือหาทางเพื่อให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยนายก และสรุปแล้วว่าจะต้องรื้อบ้านพัก 45 หลัง รวมทั้งคอนโดทั้ง 9 หลังด้วย ที่ในส่วนของคอนโดนั้นทางเครือข่ายจะให้เวลาอีก 4 เดือน จนถึงวันที่ 7 ก.ย.65 ตามที่มีการแจ้งให้ทราบว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่เชียงรายจะสร้างเสร็จ ที่มีการกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 7 ก.ย.65 แต่ปรากฏว่า ตอนนี้มีปัญหาและสร้างไปได้ 10 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงปัญหาการยุติสัญญาผู้รับเหมา ที่คาดว่าจะดำเนินการต่อไปไม่ได้ ทำให้ต้องยืดเยื้อไปอีกหลายปีแน่นอน แต่ทางเครือข่ายยังคงจะขอยึดดีเดย์คือวันที่ 7 ก.ย. ที่อาจจะมีการเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้ง เพื่อให้ทางผู้พักอาศัยที่คอนโด 9 หลัง ทยอยย้ายออกไป และจะได้ขอคืนพื้นที่ส่วนดังกล่าว จากนั้นจึงดำเนินการปลูกป่าตามเป้าหมายที่วางไว้
