“ราคาน้ำมันโลก” พุ่งแตะสูงสุดในรอบ 7 ปี หลังภูมิภาคตะวันออกกลางตึงเครียด

491

“ราคาน้ำมันโลก” พุ่งแตะสูงสุดในรอบ 7 ปี หลังภูมิภาคตะวันออกกลางตึงเครียด ด้านเจ้าหน้าที่โอเปกเชื่อน้ำมันโลกจะไปถึง 100 ดอลลาร์

วันที่ 19 ม.ค. 65 รายงานข่าวแจ้งว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับขึ้นอย่างงร้อนแรง แตะระดับราคาสูงสุดในรอบ 7 ปี ทั้งในตลาดสหรัฐ และตลาดลอนดอน โดยมีปัจจัยจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่รุนแรงมากขึ้น เมื่อกลุ่มกบฎฮูตี ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เปิดฉากโจมตีรถบรรทุกขนส่งน้ำมันในกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน การโจมตีดังกล่าว ทำให้สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพันธมิตรกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออกโรงประนามทันที และประกาศจะยกระดับการตอบโต้กลุ่มฮูตีให้หนักหน่วงขึ้น

ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ดังกล่าว คาดว่าจะทำให้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ และอิหร่านเลวร้ายลงมากขึ้น และจะลามไปถึงกระบวนการเจรจานิวเคลียร์ของอิหร่านในอนาคตด้วย และแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันที่ออกจากภูมิภาคตะวันออกกลาง

นิวยอร์ค – ราคาน้ำมันดิบเบาทีตลาดไนเม็กซ์ ปรับขึ้น 1.61 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ +1.9% ไปปิดที่ 85.43 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรลล์

ลอนดอน – ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับขึ้น 1.03 ดอลลร์ หรือ +1.2% ไปปิดที่ 87.51 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรลล์

โดยทั้งสองราคาเป็นราคาปิดที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014 หรือ 7 ปีก่อน

ส่วนสิงคโปร์ -ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่สิงคโปร์ ปรับขึ้น 76 เซนต์ ไปอยู่ที่ 97.82 ดอลลาร์ จากราคาก่อนหน้า 97.06 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรลล์

นอกจากนั้น สำนักข่าวรอยเตอร์ส ยังได้สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่กลุ่มโอเปก 5 คน โดยในจำนวนนี้มี 4 คนที่บอกว่า มีโอกาสที่ราคาน้ำมันโลกจะพุ่งขึ้นไปแตะที่ 100 ดอลลาร์ในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากปริมาณน้ำมันในตลาดโลกที่จะตึงตัวมากขึ้น

ข้อมูล : สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว