สอบท้องถิ่นส่อเค้าวุ่น!! พนักงานท้องถิ่นหลายจังหวัดภาคเหนือกว่า 60 คน หอบหลักฐานฟ้องศาลปกครองเชียงใหม่ ขอระงับผลสอบและตรวจข้อสอบใหม่ เชื่อระบบตรวจข้อสอบผิดพลาด หลังพบคนสอบชุด A ผ่านสูงผิดปกติ ส่วนข้อสอบชุดอื่นแทบเป็นศูนย์
ช่วงสายวันที่ 10 ม.ค. 65 รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มพนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากหลายจังหวัดในภาคเหนือกว่า 20 คน ที่เป็นผู้เข้าสอบ “สายงานผู้บริหาร” ของเทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด และ เมืองพัทยา นำเอกสารเดินทางไปยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองเชียงใหม่ ขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ชะลอการขึ้นบัญชีและชะลอการบรรจุแต่งตั้งผู้ผ่านการสรรหา และ ขอทราบผลการตรวจข้อสอบโดยวิธีการตรวจข้อสอบต่อหน้าผู้ฟ้อง โดยเชื่อว่าผลสอบที่ประกาศออกมามีความผิดปกติและอาจไม่เป็นธรรมกับผู้เข้าสอบทั่วประเทศ
ทั้งนี้ทาง นายวรชัย อินทร์แก้ว พนักงานเทศบาลเวียงฝาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ หนึ่งในผู้ยื่นฟ้องคดี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ.64 กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เปิดสอบพนักงานให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหารในส่วนของเทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด และ เมืองพัทยา โดยการสอบมีขึ้นในวันที่ 30 ต.ค.64 มีผู้เข้าสอบกว่า 19,000 คน ในศูนย์สอบ 5 ภาค ประกอบด้วย กลุ่มภาคเหนือ จ.ลำปาง , กลุ่มตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น , กลุ่มภาคกลาง จ.ปทุมธานี , กลุ่มภาคตะวันออก จ.จันทบุรี และ กลุ่มภาคใต้ ต.พัทลุง
ต่อมาวันที่ 25 พ.ย. 64 มีการประกาศผลสอบทางเว็บไซต์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งผู้ที่สอบข้อเขียนผ่านร้อยละ 60 ขึ้นไปถึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการสอบสัมภาษณ์ แต่ปรากฏว่าผู้ที่สอบผ่านข้อเขียนประมาณ 9,000 คน เกือบทั้งหมดจะเป็นผู้ที่ได้ข้อสอบชุดเดียวกัน ส่วนอีกสองชุดที่เหลือมีผู้สอบผ่านน้อยมากและมีหลายบัญชีที่สอบไม่ผ่านแม้แต่คนเดียว ซึ่งตัวเลขที่ออกมาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ทางสถิติ
นายวรชัย ตั้งข้อสังเกตว่าการสอบที่ผ่านมาจะมีข้อสอบ 3 ชุด โดยตัวเลขชี้ว่าผู้ที่ได้ทำข้อสอบในลำดับอนุกรมชุดที่ 1 อย่างเช่นผู้ที่ได้เลขประจำตัวสอบที่ 1 … 4 …..5 …. 7……10 จะสอบผ่านเป็นส่วนใหญ่ ส่วนผู้ที่มีเลขประจำตัวสอบชุดที่สองและสอบผ่านน้อยมาก ทั้งที่หลายคนที่ได้ข้อสอบชุดสองและสามมั่นใจว่าทำข้อสอบได้เกินกว่าร้อยละ 60 โดยสาเหตุที่ทำให้ผลสอบออกมาแบบนี้ มีความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากความผิดพลาดในระบบการตรวจข้อสอบ ที่อาจใช่ชุดตรวจข้อสอบชุดที่หนึ่งเพียงชุดเดียว ทำให้ผลสอบผ่านไปอยู่ในกลุ่มที่หนึ่งมาก ส่วนชุดอื่นแม้จะทำข้อสอบได้มากแต่ชุดตรวจไม่ตรงชุดสอบจึงอาจทำให้คะแนนออกมาไม่ตรง
ขณะที่ทางด้าน นายจิรัฏฐ์ เนตรสุขทิพย์ วิศวกรโยธา เทศบาลเมืองลำพูน ยกตัวอย่างบัญชีผู้สอบผ่านเทศบาลภาคเหนือที่เปิดทั้งหมด 10 ตำแหน่ง พบว่าผู้สอบชุดที่หนึ่ง มีผู้สอบผ่าน 245 คน คิดเป็น 94.97 เปอร์เซ็นต์ , ชุดที่สองสอบผ่าน 8 คน หรือ 3.10 เปอร์เซ็นต์ และ ชุดที่สามสอบผ่านเพียง 5 คน หรือ 1.94 เปอร์เซ็นต์ ส่วนภาคตะวันออก ชุดที่หนึ่งสอบผ่าน 82 คน หรือ 74.54 เปอร์เซ็นต์ , ชุดที่สอง สอบผ่าน 10 คน หรือ 9.09 เปอร์เซ็นต์ และ ชุดที่สาม สอบผ่าน 18 คน หรือ 16.36 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น
ล่าสุดผู้เข้าสอบที่ยังติดใจผลสอบแบบ “บัญชีกบกระโดด” ได้รวมตัวกันในกลุ่มไลน์กว่า 1,200 คน เพื่อช่วยกันค้นหาความจริง และ ได้เข้าร้องเรียนที่สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย เพื่อคัดค้านผลสอบและขอให้ตรวจข้อสอบใหม่ เพราะเชื่อว่าอาจเกิดความผิดพลาดในการตรวจสอบ ซึ่งต่อมากรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นแจ้งว่าได้ส่งเรื่องร้องเรียนไปยังมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะผู้รับดำเนินการตรวจข้อสอบ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
นายจิรัฏฐ์ บอกอีกว่า ความกังวลใจที่เกิดขึ้นทำให้กลุ่มผู้เข้าสอบได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองทั่วประเทศแล้วกว่า 250 คน โดยในเขตอำนาจศาลปกครองเชียงใหม่มีผู้ยื่นฟ้องคดีเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินแล้วกว่า 60 ราย และ หลังจากนี้จะมีทยอยเข้ายื่นฟ้องคดีเพิ่มเติมอีก โดยยืนยันว่าการฟ้องคดีไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบกับใคร โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ที่สอบผ่าน แต่ทุกคนต้องการรักษาสิทธิ์ของตัวเอง เพราะหลายคนตั้งใจมาก เตรียมตัวมานาน หลายคนต้องเสียเงินติวสอบ บางคนสอบมาหลายครั้ง หากมีการตรวจข้อสอบใหม่และพบว่าสอบไม่ถึงเกณฑ์ร้อยละ 60 ทุกคนก็พร้อมจะน้อมรับผล