ป้าวัย 55 ปี ร่ำไห้ กู้เงินกว่า 2 ล้าน สร้างบ้านได้แค่เสา แฉผู้รับเหมาทิ้งงานอ้างได้เงินไม่ครบ พบผู้เสียหายโดนเหมือนกันอีกกว่า 50 หลัง

4309

ป้าวัย 55 ปี ร่ำไห้ กู้เงินกว่า 2 ล้าน สร้างบ้านได้แค่เสา แฉช่างทิ้งงานอ้างได้เงินไม่ครบ พบผู้เสียหายโดนเหมือนกันอีกกว่า 50 หลัง

ช่วงบ่ายวันนี้ (8 พ.ย.64) รายงานข่าวแจ้งว่า ความคืบหน้าหลังจากมีผู้เสียหายร้องเรียนกู้เงินซื้อที่ดินพร้อมสร้างบ้าน แต่ถูกผู้รับเหมาทิ้งงานจนได้มาแต่หนี้ธนาคาร แต่ไม่ได้บ้านตามสัญญา โดยผู้เสียหายตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีความผิดปกติในกระบวนการอนุมัติสินเชื่อและโอนเงินให้กับผู้รับเหมา จนเป็นสาเหตุที่ผู้รับเหมาสร้างบ้านไม่เสร็จ ขณะที่ผู้บริหารฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ยอมรับว่าพบความผิดปกติในการอนุมัติสินเชื่อจากสาขาแม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ จนนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง

blank

ทั้งนี้ กลุ่มผู้เสียหายกว่าสิบรายรวมตัวร้องเรียนกับทีมข่าวเพิ่มเติม ทั้งหมดบอกตรงกันว่าได้กู้เงินขอสินเชื่อซื้อที่ดินและสร้างบ้านจาก ธกส.สาขาแม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ โดยเงินงวดจากธนาคารถูกโอนให้กับผู้รับเหมาที่ชื่อ “ประยูร”ไปแล้วทุกหลัง แต่สุดท้ายกลับสร้างบ้านไม่เสร็จและทิ้งงานไปนานนับปี

blank

กลุ่มผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า ได้รับการติดต่อจากกลุ่มนายหน้ากลุ่มเดียวกันที่การันตีว่าธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อให้ผ่านได้แน่นอนทุกกรณีและไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก ทำให้หลายคนที่ไม่มีเงินเดือนประจำและติดเครดิตบูโรพากันมาซื้อบ้านและกู้ธนาคารผ่านนายหน้ากลุ่มนี้ และ ทั้งหมดอยู่ในย่าน ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่

blank

ขณะที่ทางด้าน นางวิไล อายุ 55 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย พาไปดูบ้านของเธอที่อยู่ในซอย 14 บ้านน้ำบ่อเย็น ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ ที่มีเพียงแต่เสาให้ดู หลังจากผู้รับเหมาทิ้งงานไปนานกว่า 1 ปี นางวิไลถึงกับร้องไห้ด้วยความผิดหวัง โดยเล่าว่าได้ใช้ชื่อลูกสาวยื่นกู้กับธนาคาร ปรากฏว่าธนาคารอนุมัติสินเชื่อเป็นเงิน 2 ล้านบาทภายในวันเดียว จากนั้นวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 ทางธนาคารได้โอนเงินงวดแรกให้ 1.4 ล้านบาท และ เงินทั้งหมดได้ส่งมอบผู้รับเหมา จากนั้นในเดือนธันวาคมผู้รับเหมาได้มาลงเสาบ้าน หลังจากนั้นก็หายไป เมื่อโทรศัพท์ไปสอบถามได้รับคำตอบว่ารอให้ธนาคารโอนเงินงวดที่เหลืออีก 6 แสนให้ก่อนจึงจะเดินหน้าสร้างต่อไปได้ แต่ปรากฏว่าเงินสดที่เหลือถูกธนาคารสั่งระงับเนื่องจากหน้างานไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ ทำให้จนถึงวันนี้เธอต้องเป็นหนี้ธนาคารแลกกับเสาคอนกรีตไม่กี่ต้น

blank

ส่วน น.ส.สรัญ อายุ 28 ปี ผู้เสียหายอีกคนหนึ่งที่ได้แต่เสาบ้าน บอกว่า กู้เงินจากธนาคารมา 2 ล้านบาท งวดแรกประมาณเดือนธันวาคม 2563 ธนาคารจ่ายมา 1.4 ล้าน แต่ก็มาเจอปัญหาเดียวกันกับนางวิไล โดยบอกว่าเงินงวดที่ธนาคารโอนมาทุกคนไม่ได้จับเงิน วันเซ็นเบิกเงินจะมีผู้รับเหงาไปรอรับเงินที่ธนาคารและนำเงินไปทันที

blank

นางสาวสรัญ บอกด้วยว่า ในการยื่นขอสินเชื่อเธอไม่ได้ประกอบอาชีพ เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก และ ยังติดเครดิตบูโรอีกประมาณหนึ่งแสนกว่าบาท นอกจากนี้ยังไม่ต้องใช้ชื่อคู่สมรสกู้ร่วม ที่สำคัญคือธนาคารพิจารณาอนุมัติอย่างรวดเร็วโดยไม่มีเอกสารทางการเงิน แต่สุดท้ายกลับมาพบว่าไม่ได้บ้านตามที่ต้องการ

ส่วนหญิงสาวอีกคนหนึ่ง (ขอสงวนชื่อสกุล) บอกว่า เธอกู้เงินจากธนาคารดังกล่าวตามคำแนะนำของนายหน้ากลุ่มเดียวกัน เพื่อซื้อบ้านสองหลังบนที่ดินแบ่งขายในหมู่บ้านท่าใหม่อิ ซอย 6 .ป่าแดด .เมืองเชียงใหม่ ในราคา 1.85 และ 1.95 ล้านบาท ปรากฏว่าสร้างไม่เสร็จและถูกทิ้งร้างมานานกว่า 1 ปี โดยทราบว่าถูกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสั่งระงับหลังตรวจสอบพบว่าผู้ดำเนินการไม่มีใบอนุญาตก่อสร้าง ทุกวันนี้ต้องเป็นหนี้ธนาคารเหมือนกับผู้เสียหายคนอื่น จากการสอบถามภายหลังทราบว่ามีผู้เสียหายในย่านตำบลป่าแดดมาเกือบ 30 ราย

ผู้เสียหายรายนี้บอกด้วยว่าหลังจากถูกร้องเรียนจนสื่อนำเสนอข่าว ในช่วงเช้าวันนี้ผู้รับเหมาที่ชื่อประยูรได้โทรศัพท์มาหาเธอ บอกว่าขอโทษที่ทำพลาดไปและขอให้งดให้ข่าวกับสื่อ และ ให้แจ้งผู้เสียหายคนอื่น ๆ ว่าจะเข้าไปสร้างบ้านต่อให้เสร็จภายในเดือนนี้ ส่วนสาเหตุที่ทิ้งงานอ้างว่าธนาคารไม่จ่ายเงินงวดที่เหลือ ทำให้สร้างต่อไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้เธอยืนยันจะร้องเรียนและดำเนินการทุกอย่างเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม